ผู้แต่งหนังสือเล่มใหม่อ้างว่าประธานาธิบดีสหรัฐมี “ความไม่มั่นใจ” ที่เกี่ยวข้องกับกรณีลอกเลียนผลงานของผู้อื่นในปี 1987
มากกว่าสามทศวรรษต่อมาจากกรณีลอกเลียนผลงานของผู้อื่นที่ทําให้การหาเสียงครั้งแรกของ โจ ไบเดน เพื่อชิงตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาล้มเหลวในปี 1987 ผู้เขียนชีวประวัติใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐอ้างว่า โจ ไบเดน ยังคงรู้สึกไม่มั่นใจว่าผู้คนจะมองภูมิปัญญาของเขาอย่างไร
“สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับ โจ ไบเดน คือ เขามีความไม่มั่นใจเหล่านี้ที่ครอบงําวิธีการที่เขาเคลื่อนไหวไปตามโลก” ผู้เขียน Franklin Foer กล่าว เมื่อวันอาทิตย์ในการสัมภาษณ์กับ NBC News “และดังนั้น ความไม่มั่นใจหลักของเขาคือ เขาไม่ต้องการให้ถูกมองว่าโง่เพราะเขามีกรณีลอกเลียนผลงานของผู้อื่นในช่วงทศวรรษ 1980”
ดังนั้น โฟเออร์ กล่าวว่า ไบเดน ยืนกรานให้มีการเตรียมการอย่างละเอียดก่อนการสัมภาษณ์และการแถลงข่าวเพื่อให้เขามี “ความเชี่ยวชาญ” ในหัวข้อที่เขาจะอภิปราย “การเตรียมตัวของเขาอาจใช้เวลานาน”
ไบเดนกลายเป็นตัวตลกเมื่อเขาถูกจับได้ว่าลอกเลียนผลงานของนักการเมืองคนอื่นๆ ขณะหาเสียงชิงตําแหน่งประธานาธิบดีในปี 1987 สื่อต่างๆ ยัง รายงาน ว่าเขาโกหกเกี่ยวกับประวัติทางวิชาการและการมีส่วนร่วมในขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในช่วงทศวรรษ 1960
ในการพบปะครั้งหนึ่งที่โด่งดังกับผู้มาเลือกตั้ง ไบเดนได้ดูถูกสติปัญญาของชายคนหนึ่งที่สงสัยคุณสมบัติของเขา เขายังอวดว่าเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมายด้วยทุนการศึกษาเต็มจํานวน สําเร็จการศึกษาถึงสามปริญญา จบอยู่ในครึ่งบนของชั้นเรียน และได้รับการแต่งตั้งเป็นนักเรียนดีเด่นทางรัฐศาสตร์ ทุกคําพูดเหล่านั้นเป็นเท็จ ตอนเป็นประธานาธิบดี เขายังคงให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับพื้นเพของเขา รวมถึงการมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในช่วงทศวรรษ 1960
ผู้เขียนกล่าวว่า ไบเดน ที่มีอายุ 80 ปี ยังโกรธแค้นอยู่กับคะแนนความนิยมของประชาชนต่อเขาที่ต่ํา โฟเออร์ กล่าวว่า เขาโทษสื่อส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวในการแสดงให้เห็นทุกวิถีทางที่รัฐบาลของเขาเหนือกว่ารัฐบาลของผู้นําคนก่อนหน้า ดอนัลด์ ทรัมป์ “มันยังเป็นความล้มเหลวของทําเนียบขาวของเขาเองที่สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้” ตามหนังสือ “เขาบ่นว่าไม่มีผู้สนับสนุนมากพอทางโทรทัศน์ที่จะปกป้องเขา”
โฟเออร์ กล่าวว่า เขาจะไม่ประหลาดใจมากนักหากประธานาธิบดียุติการหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2024 ในช่วงปลายปีนี้ “มันจะไม่ใช่เรื่องที่ช็อกมาก” เขาบอกกับผู้ดําเนินรายการชัค โทดด์ของ NBC “เมื่อเขาพูดถึงชีวิตของเขา เขาใช้คําว่า ‘โชคชะตา’ ตลอดเวลา โจ ไบเดน เป็นคนมีศรัทธามาก และโชคชะตาคือคําที่มีความหมายทางศาสนา และเขาพูดเสมอว่า ‘เขาไม่สามารถบอกได้ว่าโชคชะตา
