ม็อบผนึกกำลังนัดชุมนุมใหญ่ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 14 พฤศจิกายนนี้
เมื่อเวลา 10.30 น. ตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่จากหลากหลายกลุ่ม อาทิ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลฟ้า กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ภาคีศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ฯลฯ ร่วมกันจัดงาานแถลงข่าวถึงการชุมนุมที่จะเกิดในวันที่ 14 พ.ย. นี้ ในเวลา 15.00 น. โดยจะเป็นการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังท้องสนามหลวง
รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมด้วยตัวกลุ่มกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ต้านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง โดยยืนยันว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อ ไม่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนตำแหน่งประมุขให้เป็นอย่างอื่นจากพระมหากษัตริย์ และไม่สามารถยอมรับคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญได้ เนื่องจากเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจไม่สุจริต อ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญกำจัดศัตรูทางการเมือง และเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยมีคำวินิจฉัยเป็นที่สุดผูกพันทุกองค์กร ดังนั้น การใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องอยู่ใต้ขอบเขตตัวบทบัญญัติกฎหมาย และการที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจที่เกินกว่าขอบเขต หรือไม่ดำเนินตามตัวบทของรัฐธรรมนูญ ถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจดังกล่าวไม่อาจถือได้ว่าเป็นที่สุด และปราศจากผลผูกพันใดๆต่อทุกองค์กร
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นพวกท่านเองหรือไม่ ที่กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน พยายามล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปสู่ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง ปิดกั้นประชาชน เพื่อกำหนดทิศทางทางการเมืองด้วยตนเอง หรือพยายามเปลี่ยนแปลงพระอำนาจของพระมหากษัตริย์ จากอำนาจเชิงพฤติการณ์สู่อำนาจในรูปแบบอื่น พร้อมยืนยัน ข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ 10 ข้อตามเดิม
ขณะที่ ในวันพรุ่งนี้ จะนัดรวมพลที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น. ก่อนเดินเท้าไปยังสนามหลวง เพื่อต่อต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการปฏิรูปสถาบันเป็นการล้มล้างการปกครอง
กลุ่มไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ร่วมอ่านแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยคำวินิจฉัยศาล รธน. ยืนยันไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เสนอปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ เดิม เตรียมนัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยพรุ่งนี้
พร้อมกันนี้ ยังแสดงความเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกำลังปิดประตูการปฏิรูปตามข้อเรียกร้อง แต่ยืนยันและเชื่อว่า พลังของประชาชนจะสามารถผลักและเปิดประตูได้อีกครั้ง จนกว่าการปฏิรูปสถาบันจะเกิดขึ้นและสำเร็จลง โดยไม่ว่าช่องทางใดในการเสนอปฏิรูปได้ ก็จะพยามที่จะดำเนินการ ทั้งเวทีรัฐสภา -การชุมนุม-อื่นๆ
พร้อมทั้งตั้งคำถามไปถึงพรรคการเมือง -ส.ส. ในฐานะผู้แทนประชาชน ที่อยู่ในระบบประชาธิปไตยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องเป็นกระบอกเสียงต่อข้อเรียกร้องของประชาชน ส่วนกรณีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ข้อกล่าวหาสนับสนุนผู้ถูกศาลวินิจฉัยพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองนั้น ปนัสยา ระบุว่าการประกันตัวเป็นการใช้สิทธิ ส.ส. แต่มองเป็นเกมการเมืองที่วางไว้นานแล้ว เพื่อออกคำวินิจฉัยมา ยุบพรรคก้าวไกล หลังยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่อาจคาดการณ์ว่าในอนาคตคนที่ไม่ได้เห็นด้วย จะดำเนินการใดต่อไปเพื่อสกัดกั้นการเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ ยังฝากส่งสารไปยังกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่า ไม่เห็นอะไรนอกจากความเห็นแก่ตัว ในการใช้อำนาจดำเนินคดี-จับขัง-ฟ้องร้อง กับประชาชน และยืนยันรับฟังรวามเห็นต่างจากกลุ่ม ทั้งนี้ต้องการสร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนทางความคิด พร้อมตั้งคำถามว่าเป็นไปไม่ได้หรือที่จะ พูดคุยกันและรับฟังหาทางออกร่วมกัน โดยรู้เชื่อว่าเป็นไปได้แต่ต้องเริ่มขึ้นมาก่อนและหวังว่าสักวันนึงผู้มีอำนาจจะรับฟังข้อเรียกร้องและเปิดใจยอมรับ หรือข้อเรียกร้องจะสำเร็จได้บ้าง
ส่วนการชุมนุมในวันพรุ่งนี้จะใช้สิทธิอย่างสันติ ส่วนจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของรัฐบาลเอง และการประกาศไม่เอาระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์คือการยกระดับการชุมนุมของประชาชน
