ทีมสื่อพรรคก้าวไกลรายงานว่า เมื่อ 27 ส.ค. 64 สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงข่าวคดีจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ คดีที่กำลังถูกจับตามองทั้งสื่อมวลชนและประชาชน ในขณะนี้ สุทธวรรณกล่าวถึงในฐานะ ส.ส. หญิง และฐานะลูกตำรวจ ซึ่งมีทั้งพ่อและแม่เป็นตำรวจ จำเป็นต้องพูดถึงตำรวจที่ทำหน้าที่นำโทรศัพท์มือถือไปจ่อไมค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กำกับโจ้โฟนอินตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ตั้งแต่ต้นจนจบ พอเห็นภาพดังกล่าวได้สะท้อนว่า ระบบตำรวจไทย นอกจากจะเต็มไปด้วยเส้นสาย ระบอบอุปถัมภ์ การทุจริตคอรัปชั่น ยังเป็นวงการที่กดขี่ผู้หญิง
“อยากถามว่าทำไมต้องให้ตำรวจหญิงถือโทรศัพท์ให้ ซึ่งนายตำรวจผู้ใหญ่ทุกคนก็ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ การถือโทรศัพท์มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินกว่าที่นายตำรวจใหญ่จะทำเองใช่หรือไม่ จึงต้องใช้ตำรวจหญิงมาทำ นั่นก็หมายความว่า ตำรวจหญิงมีหน้าที่ทำงานที่ไม่สำคัญแบบนั้นหรือ” สุทธวรรณ ตั้งคำถาม
ทั้งนี้สุทธวรรณกล่าวต่อว่า การซ้อมทรมาน การรีดเงินผู้ต้องหา ไม่ใช่เรื่องปกติ การให้ตำรวจหญิงมาถือโทรศัพท์ให้นายตำรวจผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติเช่นกัน ตำรวจหญิงก็มีศักดิ์ศรี เราไม่ควรยอมรับความผิดปกติ ความบิดเบี้ยวของทัศนคติแบบนี้ สังคมเราเดินทางมาไกลแล้ว ไม่ว่าเพศไหนไม่ควรถูกกดขี่ลดทอนคุณค่า ขอให้ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสื่อมวลชน ช่วยหยุดทัศนคติที่คิดว่าตำรวจหญิงมีไว้โชว์ตัวสวยๆ เป็นไม้ประดับในงานแถลงข่าว
“ต้องค้นหาเปิดวาร์ป (ที่มาตัวบุคคล) กันจ้าละหวั่น ทั้งๆ ที่คดีความนี้มีความร้ายแรง เป็นเรื่องซ้อมทรมาน เรื่องการทุจริตคอรัปชั่น การละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรงโดยผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย แต่ตำรวจหญิงที่ปรากฏตัวในงานแถลงข่าว ทำหน้าที่ถือโทรศัพท์ กลับกลายเป็นสีสันที่ถูกนำไปขยายใหญ่โต
ควรหยุดคิดว่าตำรวจผู้หญิงมีไว้ทำงานเลขาฯ งานเอาใจนาย ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเพศใด เกียรติภูมิอยู่ที่การรับใช้ประชาชน ทำงานอย่างซื่อสัตย์ ไม่ใช่การถือตั๋วอะไร การมีนายคนไหนชั้นยศใหญ่โต หรือหากเปลี่ยนเป็นตำรวจผู้ชาย ก็ไม่ควรต้องมาถือโทรศัพท์แทนแบบนี้ นี่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เจ้าตัวสามารถทำเองได้ อย่านำตำรวจที่มียศน้อยกว่ามารับใช้โดยไม่จำเป็น” สุทธวรรณ กล่าว
