นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ เขต 3 กล่าวระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันพุธ (1 ก.ย.) ว่าตนเตรียมฟ้อง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 47, 55 และ 157 เพราะไม่ได้ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขอย่างถ้วนหน้าและไม่มีค่าใช้จ่าย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“ขอใช้สิทธิสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟ้อง พลเอกประยุทธ์ ตามมาตรา 47 มาตรา 55 มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่อาจไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้อีกต่อไป” นายจักรพล กล่าว
นอกจากการเข้าถึงการรักษาหรือบริการทางสาธารณสุขที่ไม่ฟรีจริงหรือเข้าถึงได้ยากแล้ว นายจักรพล ยังกล่าวว่า การควบคุมโควิด-19 ที่ไม่สำเร็จเสียทีของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังส่งผลให้รายได้การท่องเที่ยวแทบไม่เหลือ จากปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยว 39.8 ล้านคน ทำร้ายได้กว่า 3 ล้านล้านบาท แต่ปี 2553-2564 นักท่องเที่ยวลดลงไปถึง 33 ล้านคน เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหายไปกว่า 1.6 ล้านล้านบาท
ส.ส. จ.เชียงใหม่ รายนี้ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลนี้ก็ดูแลกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ไม่ได้เช่นกัน สินเชื่อซอฟต์โลนที่กล่าวว่าจะนำมาช่วยคนกลุ่มนี้ กลับไปไม่ถึงมือผู้เดือดร้อน ผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจกลางคืนเข้าถึงเงินก้อนนี้ไม่ได้เลย เพราะไม่มีสินทรัพย์ใดไปค้ำประกัน ส่งผลให้คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่ ดีเจ นักร้อง บาร์เทนเดอร์ พนักงานเสิร์ฟ ไปจนถึงบริการ ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ส่วนการระบาดระลอกล่าสุดที่ลากยาวมาจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ ก็ทำให้แผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวไม่ประสบความสำเร็จนัก และมีเพียงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เพียงโครงการเดียวที่เป็นความหวังของภาคท่องเที่ยว แต่ก็มีข้อจำกัดเยอะ จนได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
พรรคเพื่อไทยเคยเสนอทางออกให้ปัญหาเหล่านี้แล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจ ซึ่งก็คือการเปิดประเทศผ่านพาสปอร์ตวัคซีน ทำโครงการจ้างงาน การปล่อยกู้ 0% ให้โรงแรม เรื่อยไปถึงการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ภายใต้ชื่อ 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ หากรัฐบาลทำตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอไว้ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก และรายได้จะสูงขึ้น 7 เท่าของที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
เมื่อนายจักรพลกล่าวจบ เพื่อน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ชูป้ายหน้า พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีข้อความระบุว่า “หยุดยุทธ์”
