“ชัยวุฒิ” เผยไม่ปรับ ครม. ก็ดีจะได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ออกปากแซว “ธรรมนัส” ปกติเวลาลงพื้นที่น้ำท่วมควรนั่งอยู่บนเรือ เพราะลงไปว่ายน้ำมันอันตรายเพราะน้ำเชี่ยว
วันนี้ (5 ต.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดชัดเจนก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มีการปรับ ครม. ว่า ขณะนี้ภายในพรรคยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค จึงยังไม่มีประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรีและเสนอชื่อใครเป็นรัฐมนตรีในส่วนของโควตาพรรคแต่อย่างใด
ส่วนที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าควรจะเป็นรัฐมนตรีคนนอกหรือคนในพรรคนั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นคำว่าไม่ปรับคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เป็นอยู่น่าจะชอบ เพราะรัฐมนตรีที่มีอยู่จะได้ไม่โดนปรับออกหรือเกลี่ยตำแหน่ง และจะได้ทำงานต่อเนื่องต่อไป
เมื่อถามย้ำว่าการไม่ปรับคณะรัฐมนตรี จะเป็นผลดีมากกว่าเพราะไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่นั้น รมว.ดิจิทัลฯ ระบุว่า เมื่อไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี ก็จะมีการทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหา และทำให้เกิดความมั่นคงในการทำงานของรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน นายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่น้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่ไปเร่งติดตามรับฟังปัญหาจากประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่มีตัวแทนรัฐบาลเข้าไปรับฟังปัญหาว่าประชาชนนั้นขาดเหลืออะไร หรือต้องการปรับปรุงส่วนไหนในการป้องกันน้ำท่วม
ส่วนกระแสดราม่าในโลกโซเชียลถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่น้ำท่วม ลุยน้ำลากเรือแจกสิ่งของพี่น้องประชาชนนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปด้วยจึงไม่ทราบ พร้อมกล่าวเชิงติดตลกว่า ปกติการลงน้ำท่วมเขานั่งเรือกัน เวลาน้ำท่วมแล้วไปว่ายน้ำมันอันตรายเพราะน้ำเชี่ยว
อ่านข่าวเพิ่ม : “ธรรมนัส” ลุยช่วยน้ำท่วม มาในนามจิตอาสา กำชับทีมงานห้ามบอกชาวบ้านว่าผมคือใคร
ขอศึกษาดันบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ไทยต้องปรับตัวตามเทคโนโลยี แม้รณรงค์ให้เลิก แต่คนสูบในประเทศยังมีเกือบสิบล้าน
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังระบุถึงกรณีที่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายว่า เครื่องยาสูบที่เป็นไฟฟ้าถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ 67 ประเทศทั่วโลกมีการยอมรับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา จีน แม้แต่มาเลเซีย เพราะถือว่าเป็นยาสูบที่มีความอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง บุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารพิษน้อยกว่า เพียงแต่ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับ
เรื่องนี้ตนกำลังศึกษาข้อกฎหมายอยู่ว่าติดขัดเรื่องอะไร เพราะหากทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายได้จะสามารถลดอันตรายให้กับผู้สูบ เพราะบางคนไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้แม้จะมีการรณรงค์ให้คนเลิกสูบบุหรี่ก็ตาม แต่ปัจจุบันเหลือคนสูบบุหรี่อีกเกือบ 10 ล้านคน
อ่านข่าวเพิ่ม : “ชัยวุฒิ” เล็งพัฒนาบุหรี่ไฟฟ้าจากยาสูบ แก้ปัญหาลักลอบนำเข้า รับอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง
อย่างไรก็ตาม นายชัยวุฒิ ยังระบุอีกว่า หลายประเทศยอมรับว่าหากเรามีบุหรี่ไฟฟ้าจะสามารถลดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนได้มากกว่า เรื่องนี้ตนขอศึกษาข้อกฎหมายก่อน นอกจากนี้ ปัจจุบันทราบว่าโรงงานยาสูบและผู้ปลูกยาสูบเองก็มีรายได้ลดลง เนื่องจากคนนิยมไปสูบบุหรี่นำเข้าหรือบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามา ดังนั้น ถ้าเราสามารถเอายาสูบที่ปลูกในประเทศมาผลิตบุหรี่ไฟฟ้าได้ จะสามารถแก้ปัญหาให้กับโรงงานยาสูบและเกษตรกรได้ รวมทั้งส่งออกได้ด้วย อยู่ที่ว่าเราจะสามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีได้มากน้อยแค่ไหน สุดท้ายถ้าเราไม่ปรับตัวตามเทคโนโลยีก็จะเกิดปัญหาภายในประเทศและเสียหายในอนาคตได้
