นายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ลงนามร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 1.05 ล้านโดสให้ไทย เมื่อวันอังคาร (29 มิ.ย.)
เว็บไซต์สถานทูตญี่ปุ่น ระบุว่า สาเหตุที่ต้องบริจาคให้ไทย เพราะพบว่าการระบาดระลอก 3 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไทยควบคุมไม่ได้
ไม่ใช่แค่นั้น ไทยยังฉีดวัคซีนได้คืบหน้าน้อยมากเพียง 5% ของประชากร เพราะวัคซีนที่เตรียมไว้ 70 ล้านโดส ไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้ถึง 100 ล้านโดส และการผลิตวัคซีนในไทยยังล่าช้ามาก
“ประเทศไทยกำลังประสบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในระลอกที่ 3 ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากเกิดแหล่งการแพร่ระบาดใหม่ (คลัสเตอร์) ต่างๆ เช่น ในใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวได้” สถานทูตญี่ปุ่น ระบุ
“จำนวนวัคซีนที่ได้จัดเตรียมและวางแผนการผลิตขึ้นในประเทศแล้วรวม 70,000,000 โดส ยังคงไม่เพียงพอต่อจำนวนวัคซีนที่จำเป็นจะต้องจัดหาไว้ทั้งหมดประมาณ 100,000,000 โดส นอกจากนี้ การผลิตวัคซีนในประเทศยังคงมีความล่าช้า”
ส่วนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า วัคซีนจำนวน 1,050,000 โดสที่ญี่ปุ่นจะบริจาคให้นั้น เป็นวัคซีนที่บริษัทยา แอสตร้าเซนเนก้า และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในสหราชอาณาจักร พัฒนาร่วมกัน และคาดว่าวัคซีนจำนวนนี้จะมาถึงไทยช่วงค่ำวันที่ 9 ก.ค.
