“ดอน” บอกไม่แปลกไม่ต้องเสียใจ ปมสหรัฐไม่เชิญไทยร่วมประชุมประชาธิปไตย

“ดอน” ตอบกระทู้ถามสดในสภา กรณีสหรัฐไม่เชิญไทยเข้าร่วมประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย บอกไม่แปลก ไม่มีคำเชิญก็ไม่ต้องกระทืบเท้าเสียใจ

วันนี้ (25 พ.ย.) นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงต่อสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสดต่อประเด็นที่สหรัฐอเมริกาไม่เชิญประเทศไทยร่วมประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะท่าทีไทยหลังเยือนเมียนมา ว่า ไม่เชิญไม่แปลก บางเรื่องดีใจที่ไม่ได้รับเชิญ แต่หากเชิญ เราต้องพิจารณาว่าจะไปหรือไม่ เพราะหลายกรณีเป็นดาบสองคม ไม่ใช่ไม่มีคำเชิญแล้วต้องกระทืบเท้าเสียใจ ความจริงของชีวิตต่างประเทศไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนเข้าใจ ตนอยากนัดทานข้าวกับท่าน ส.ส. ที่ตั้งกระทู้ถาม เพื่อจะเล่าให้ฟังในหลายๆ แง่มุม

  • สหรัฐเชิญไต้หวันร่วมประชุมประชาธิปไตย แต่ไร้เงาจีน-รัสเซีย ไทยก็ตกขบวน

ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ผู้ตั้งกระทู้ถามสดดังกล่าว ปฏิเสธคำชวนของนายดอน และกล่าวว่า ขอให้ใช้เวทีของสภาฯ เพื่อชี้แจง หากประชุมโดยเปิดเผยไม่ได้ ขอให้ประชุมลับ พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับท่าทีของไทยต่อการรัฐประหารในประเทศเมียนมา และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ซึ่ง นายดอน กล่าวว่า เข้าใจข้อเท็จจริง เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ ประเทศในกลุ่มอาเซียนเรียกร้องให้คืนอำนาจ เรารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่การคืนอำนาจหรือปรองดองให้มีอำนาจร่วมกันทำได้ ต้องพูดคุยกัน ท่าทีของไทยในทันทีไม่มีที่ไหนเกิดขึ้น หากพยายามหาช่องทางคุยกับผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ให้คืนอำนาจ และจัดสรรอำนาจระหว่างกัน เราเดินทางนี้ และหลายประเทศเข้าใจ ในโลกความเป็นจริงกับต่างประเทศ มี Bad Cop และ Best Cop ซึ่งหลายประเทศมองว่าไทยคือ Good Cop

นอกจากนั้น นายดอน ยังชี้แจงต่อสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสดต่อประเด็นการเดินทางเยือนประเทศเมียนมาเมื่อ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการเยือนแบบลับๆ ล่อๆ ที่ถูกมองว่าทำไปเพื่อรับรองรัฐบาลทหารเมียนมา และการเจรจาผลประโยชน์ โดยยืนยันว่า การเดินทางไปประเทศเมียนมาดังกล่าวไม่ได้ทำแบบลับๆ ล่อๆ แต่ไม่จำเป็นต้องโพนทะนา เพราะกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่หน่วยงานที่หิวแสง อีกทั้งการเดินทางไปประเทศเมียนมาของตนนั้นเนื่องจากเคยทำงานในโต๊ะเมียนมา กระทรวงการต่างประเทศ นานถึง 40 ปี จึงทราบพัฒนาการต่างๆ นอกจากนั้น ยังเป็นการเข้ามอบสิ่งของและเวชภัณฑ์ ที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชนรวม 17 องค์กร

ส่วนกรณีที่มีข่าวระบุว่า มีการบริจาควัคซีนของไทยที่ได้รับบริจาคนั้น คือ ข่าวปล่อย ข้อเท็จจริงไม่มีสิ่งของจากรัฐบาล มีแค่ของบริจาคจากภาคเอกชน และไม่ได้มีเรื่องวัคซีน แม้จะรับหรือจะให้ ต้องมีกระบวนการ เช่น ทำเอ็มโอยู ระะหว่างเจ้าของวัคซีนด้วย ซึ่งเป็นกติกาสากล อีกทั้งการให้หรือรับต้องผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย

ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมต่อการเดินทางเยือนประเทศเมียนมา เพราะต้องการรับรองสถานะของรัฐบาลทหารของเมียนมา ซึ่งเป็นท่าทีที่นานาชาติไม่ยอมรับ โดย นายดอน ชี้แจงว่า การเมืองระหว่างประเทศไม่มีอะไรที่แน่นอน ความพยายามที่สร้างสรรค์สามารถทำคู่ขนานกับความขัดแย้งได้ เหมือนเคยมีคำกล่าวว่า ไฟท์ ไฟท์ ทอล์ก ทอล์ก คือ พยายามคุยกันตลอดเวลา ด้านการต่างประเทศนั้น ยอมรับว่ามีผู้แทนพิเศษเอ็นเอสจี ขอให้ไทยเป็นตัวกลางเกือบทุกเรื่อง

สำหรับผู้แทนสหรัฐที่เดินทางมาประเทศไทย เป็นข่าวที่สิงคโปร์ แต่ไทยไม่ให้ข่าว มีประเด็นขอให้ช่วยโดยต้องการให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียนในการประสานกับเมียนมา แต่เป็นเรื่องที่พูดหรือเปิดเผยไม่ได้

Next Post

สธ.เซ็นซื้อ "ยาโมลนูพิราเวียร์" 5 หมื่นคอร์ส-"วัคซีนไฟเซอร์" อีก 30 ล้านโดส

กระทรวงสาธารณสุข ลงนามจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ 5 หมื่นคอร์สการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด 19 เข้าถึงยาใหม่ชนิดรับประทาน เน้นกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง รวมทั้งลงนามจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 30 ล้านโดส สำหรับฉีดในปี 2565 วันนี้ (25 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐ […]