เพราะห่างหายจากโหมดหวานไปนาน แถมยังเจอกระแสข่าวดราม่าบนโลกโซเชียลฯ ในทำนองว่า ความรักของสองซุปตาร์ไอดอล ตงตง-กฤษกร กนกธร และ เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ น่าจะปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดทางฝั่งของพระเอกหนุ่มที่เดินทางมาร่วมงาน Avatar The Way of Water ก็ได้ออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นความรักแบบจัดเต็มเป็นครั้งแรก!!
ซึ่ง ตงตง กฤษกร ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าสถานะความสัมพันธ์ระหว่างตนและ เบสท์ รักษ์วนีย์ เป็นปกติดีเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ช่วงนี้ที่ไม่ค่อยเห็นภาพหวานๆ ก็เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็ยุ่งอยู่กับการทำงาน และไม่ได้ถูกหมายสั่งจากต้นสังกัดให้เบรกการโพสต์ภาพคู่อย่างที่หลายคนเข้าใจด้วย
“คือผมก็ต้องบอกเหมือนทุกๆ ครั้งเลยครับว่า คือก่อนหน้านี้มันเป็นช่วงแรกๆ เลยที่มีโควิด และตอนนั้นมันก็ไม่มีใครมีงานเลย เราก็เลยได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันค่อนข้างเยอะ ได้ไปถ่ายยูทูบ ได้ไปไหนมาไหนตามสถานที่ต่างๆ แต่ว่าตอนนี้เราได้กลับเข้ามาสู้การทำงานแล้ว และผมเองก็ทำงานหนักมากจริงๆ ทั้งงานนอก ทั้งงานละครของปีหน้า”
จริงไหมว่าเป็นเพราะต้นสังกัดสั่งห้ามโพสต์ภาพคู่ ?
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ และอย่างที่ผมบอกจริงๆ คือช่วงนี้ผมทำงานหนักมาก แต่เราก็ยังใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิมนะ ไปกินข้าว ไปเล่นนู่นนั่นนี่ แค่อาจจะไม่ได้ถ่ายให้ทุกคนได้เห็นก็เท่านั้นเอง”
สรุปก็คือไม่ได้มีการโดนใบสั่งให้พักเรื่องการโพสต์รูป ?
“ยังไม่ขนาดนั้นครับ ยังไม่ขนาดนั้น”
ตงตง กฤษกร กนกธร
พอไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้ มันทำให้เราสองคนต้องปรับจูนเยอะขึ้นไหม ?
“เรื่องปรับจูนมันก็มีครับ แต่ถามว่าเราถ่ายรูปกันไหม เราก็ถ่ายนะครับ แค่มันอาจจะไม่ได้บ่อยเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นเอง”
อาจเป็นเพราะงานเราเยอะขึ้น เลยอยากให้คนโฟกัสที่งาน มากกว่าความเป็นคู่รัก ?
“ใช่ครับ นี่ก็ด้วย คือหลักๆ ด้วยเรื่องของความรักของผมเนอะ คือใช่แหละ เพราะเมื่อก่อนทุกคนก็จับตามอง แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็… คือถ้าถามว่าความรักยังมีอยู่ไหม มันก็ยังมีอยู่ แค่ ณ ตอนนี้ผมต้องทำงานไปด้วยอ่ะครับ ผมอยากประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ผมอยากไปไกลให้มากกว่านี้ ดังนั้นผมจึงต้องจริงจังกับการทำงานให้มากๆ เลย”
เบสท์เขาเข้าใจเป้าหมายของเราใช่ไหม ?
“ก็มีการพูดคุยกันครับ และก็ต้องปรับจูนเข้าหากันเป็นเรื่องธรรมดา”
เกี่ยวไหมว่าการที่ลงภาพคู่ในช่วงหลัง มักจะโดนกระแสโจมตี โดนดราม่า ?
“อันนั้นมันเป็นเรื่องของโซเชียลแล้วครับ แต่ตัวผมเองก็คอยบอกน้องอยู่เสมอว่า สุดท้ายแล้วความรักมันก็คือเรื่องของเราสองคน ว่าเราจะคิดยังไง หรือเราจะตัดสินใจยังไง ส่วนกระแสข้างนอกใครที่เป็นกำลังใจให้ เราก็รู้สึกขอบคุณ เราดีใจ แต่สำหรับอะไรที่มันไม่ดี หรือมันส่งผลต่อความรู้สึก เราก็อยากให้ฟังแต่สิ่งดีๆ มากกว่า”
ตงตง กฤษกร กนกธร
น้องเข้าใจมากขึ้นใช่ไหม ?
“ใช่ครับ ใช่ คือเราสองคนก็มักจะพูดคุยกันอยู่เสมอว่าแบบ…ไม่ว่าเราเจอกับกระแสอะไร หรือไม่ว่าใครจะไม่เข้าใจยังไง แต่สุดท้ายขอแค่เราสองคนเข้าใจกัน แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”
ยืนยันสถานะให้แฟนๆ มั่นใจอีกสักครั้ง ?
“ยังรักกันเหมือนเดิมยัง ยังไงก็ยังเป็นน้องเบสท์เหมือนเดิม เรายังใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิม”
ล่าสุดเขาเองก็กำลังจะรับปริญญาด้วย ?
“ใช่ครับ ขอแสดงความยินดีกับน้องด้วย เห็นน้องได้เกรดดีเลย (ยิ้ม) ยินดีกับน้องด้วยจริงๆ ที่น้องประสบความสำเร็จ และก็อยากให้แฟนคลับที่ชื่นชอบน้องหรือรักน้อง ไปให้กำลังใจน้องด้วยนะครับในวันที่ 15”
จะมีภาพคู่ให้เห็นไหมในวันนั้น ?
“รอดูดีกว่าครับ (ยิ้ม)”
หนักใจเรื่องของขวัญไหม เพราะที่ผ่านมาเวลามีโอกาสพิเศษก็ใหญ่ตลอด ?
“จริงๆ ผมก็คิดหนักเหมือนกันนะเวลาที่ทุกคนโฟกัสเรื่องนี้ เพราะสุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นว่าเราจะไม่ได้ให้อะไรที่เราอยากให้ คือแบบพอทุกคนโฟกัสว่าตอนนี้ทำมาหลักแสน ปีหน้าต้องหลักล้าน แต่บางครั้งสมมติถ้าเกิดผมไปเจอสิ่งที่มันมีค่าทางจิตใจที่มันราคาแค่ 10 บาท 50 บาท ผมจะกล้าให้เขาเหรอ ดังนั้นผมจึงต้องคอยบอกอยู่เสมอว่า สุดท้ายแล้วความรักให้เป็นสิ่งที่เราสองคนรับฟังกันเองเถอะ ส่วนใครที่ให้กำลังใจมาผมก็รับไว้และยินดี ผมอ่านตลอดนะครับ”
