พล.อ.ประวิตร โต้นักวิชาการ แจงใช้งบ 8.25 หมื่นล้าน พัฒนาคลองแสนแสบ สร้างโรงบำบัดน้ำเสีย มั่นใจน้ำกลับมาใส
วันนี้ (15 ธ.ค.) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 5/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิพากษ์วิจารณ์ถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ที่อนุมัติงบประมาณ 8.25 หมื่นล้านบาท ในการฟื้นฟูคลองแสนแสบ ระยะเวลา 11 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2564-2574 ว่า คลองแสนแสบมีความยาวเกือบ 100 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างจังหวัดฉะเชิงเทรา แม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยเรื่องการระบายน้ำ
ซึ่งในคลองมีน้ำเสียซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้เดินทางวันละ 1 พันคนต่อวัน โดยเรื่องของงบประมาณเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยกับกรุงเทพมหานคร ที่ต้องสร้างโครงการบำบัดน้ำเสีย ที่จะช่วยให้บำบัดน้ำเสียได้วันละ 130,000 ลิตร เพื่อให้น้ำในคลองไม่ดำ รวมถึงมีการทำเขื่อนบริเวณคลองอีกประมาณเกือบ 100 กิโลเมตร ซึ่งโครงการมีการดำเนินการประมาณ 11 ปี เฉลี่ยแล้วใช้เงินประมาณปีละ 7,000 กว่าล้านบาท
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้คลองแสนแสบกลับมามีน้ำใส พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า เวลานี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า ได้ไปดูหรือไม่ ไม่ได้ไปดูแล้วมาถามตน พร้อมระบุว่า คลองแสนแสบดีขึ้นเยอะแล้ว ซึ่งในปี 2564-2575 จะดีขึ้นอีก
ส่วนมีการปรับปรุงภูมิทัศน์และจะมีการทำทางเดินบริเวณริมคลองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะมีการทำทางเดินให้กับประชาชน และทำเขื่อนกั้นน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำให้ภูมิทัศน์ต่างๆ ดีขึ้นรวมถึงการระบายน้ำเสีย
- ครม.ไฟเขียวทุ่มงบ 8.25 หมื่นล้าน ฟื้นฟูคลองแสนแสบ 11 ปี 84 โครงการ
ทั้งนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์วิจารณ์มติ ครม.ดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ว่า “ปี 2558 ผลาญงบไป 7,000 ล้านบาท อ้างว่าจะฟื้นฟูคลองแสนแสบให้ใสได้ ในปี 2560 สุดท้ายก็ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหายไปหมด คราวนี้จะเอาไปอีกเป็น 8.2 หมื่นล้านเลยเหรอ แถมทำ 11 ปีด้วย ประยุทธ์ กะจะอยู่ไปอีก 3 สมัยหรือไงเนี่ย”
โยน กก.บห.พลังประชารัฐ พิจารณาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงประเด็นที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในช่วงประมาณกลางปี 2565 ว่า เป็นการประมาณการแต่ยังไม่ได้ระบุวันและเวลาที่แน่ชัด แต่ยืนยันจะไม่เกินช่วงกลางปีหน้า ส่วนจะมีโอกาสเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าต้องรอให้ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง อบต.ที่ผ่านมาก่อน ซึ่ง บิ๊กป้อม ระบุว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนความชัดเจนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น ต้องให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้พิจารณา เพราะขณะนี้มีผู้สมัครหลายคน พร้อมกับยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่จะเป็นการให้การสนับสนุนตัวผู้สมัครแทนการส่งผู้สมัครในนามพรรคโดยตรง แต่ต้องเป็นคนดีทำงานร่วมกับรัฐบาลซึ่งจะเป็นใครก็ได้ และมุมมองของผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ต้องเป็นคนดี เป็นคนทำงาน ทำงานด้วยความโปร่งใส ทำงานเพื่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ทำโพลเพื่อสำรวจความนิยมของพรรค เพราะถามผู้สื่อข่าวก็รู้แล้ว
