ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารรวมตัวกันทั่วเมียนมาในวันจันทร์ตอบรับการเรียกร้องของสหภาพแรงงานที่ขอให้ประชาชนให้หยุดงานทั่วประเทศหลังกองทัพทำการบุกค้นและจับกุมในช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ พร้อมกับบุกเข้าไปควบคุมสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาล
การประท้วงที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลงแต่ตำรวจและทหารตอบโต้ด้วยการปราบปรามผู้ชุมนุมที่โหดเหี้ยมมากขึ้นโดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คนและถูกจับกุมเกือบ 1,800 คน
แม้จะมีความเสี่ยงแต่ผู้ประท้วงได้รวมตัวกันในบางส่วนของเมืองย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ ตามคำเรียกร้องของสหภาพแรงงาน
“การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจตามปกติ … จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพในขณะที่พวกเขาปราบปรามพลังของชาวเมียนมา” สหภาพแรงงาน 18 แห่งระบุในแถลงการณ์ “ถึงเวลาดำเนินการเพื่อปกป้องประชาธิปไตยของเราแล้ว”
อย่างไรก็ตาม กองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงของเมียนมาทำการปราบปรามหนักขึ้น สื่อของรัฐรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า กองกำลังความมั่นคงของเมียนมากำลัง “รักษา” โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยในที่ต่างๆ ของประเทศ
- เผยกองทัพทหารเมียนมาอยากจับมือสหรัฐ-ไม่อยากเป็นหุ่นเชิดจีน
- อินเดียคุมเข้มชายแดนหวั่นชาวเมียนมาหนีเข้าประเทศ
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสื่อท้องถิ่นระบุว่าทหารยึดครองสถาบันต่างๆ ในเมียนมา
The Irrawaddy รายงานว่า กองกำลังความมั่นคงของเมียนมาได้ควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านอย่างน้อย 10 คนใน 8 เขตของย่างกุ้งเมื่อคืนวันเสาร์รวมถึงสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ผู้นำการประท้วง และพลเรือนคนอื่นๆ
ปรากฏว่า อู ขิ่น มอง ลัต ชาวมุสลิมอายุ 58 ปีประธานเขตพรรค NLD ในเขตปาเบดันเมืองย่างกุ้งถูกทรมานจนเสียชีวิตหลังจากตำรวจและทหารพาเขาออกจากบ้าน โดยครอบครัวของเขาไปรับศพของเขาจากโรงพยาบาลทหารมิงกลาดอนเมื่อวันอาทิตย์
Photo by STR / AFP