ก่อนถึงวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต9 หลักสี่-จตุจักร ในวันที่ 30 ม.ค.65 สัปดาห์นี้จึงเป็นโค้งสุดท้ายของแต่ละพรรคการเมืองที่จะหาเสียงขอคะแนนจากประชาชน แม้พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เหมือนพรรคอื่นๆ ก่อนหน้านี้ แต่การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนอย่างเป็นการเอง พร้อมแกนนำพรรคหลายคน เป็นการย้ำความสำคัญของพื้นที่การเลือกตั้ง
และพูดคุยกับยายวัย 104 ปีที่มารอเพื่อจะขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือที่ช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด จากนั้นขึ้นปราศรัยย่อย ประชาชนที่อยู่ริมคลองมีความยากลำบาก เพราะฉะนั้นจึงจัดทำบ้านมั่นคงเดินไปมาหาสู่กันอยากให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี
“ฝากไว้ฝากมาดามหลีเบอร์ 7 เราทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ชาวริมคลองทั้งประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ฝากไว้ว่าภายใต้การดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลเราได้ทำมาแล้ว 7 ปี ได้สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ คำนึงถึงคนที่มีรายได้น้อย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นฝากพวกเราให้ช่วยเลือกพรรคพลังประชารัฐและเบอร์ 7 ด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ แม้ว่าวันนี้จะพ้นตำแหน่ง แต่ยังทำหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ โดยระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ ปรากฎว่า ตัวแทนกลุ่มพีมูฟเกือบ 10 คน บุกเข้ามาเพื่อจะยื่นหนังสือ เพื่อทวงถามความคืบหน้าและข้อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาของประชาชน หลังจากที่ปักหลักรอฟังคำตอบบริเวณที่ทำการสหประชาชาติ เป็นเวลา 4 วัน แล้ว แต่ยังไม่ได้พบ นายสิระ ได้อาสาพูดคุยและรับเรื่องแทน
“จะช่วยทางนี้อีกรอบหนึ่งโดยเป็นที่ปรึกษามีอะไรที่สามารถผลักดันอะไรได้ทำเต็มที่ วันนี้ต้องเจรจามาดูว่าเงื่อนไขตรงไหนจะแก้ไขได้ ถ้าพี่น้องเดือดร้อนมาแบบนี้แล้วทางรัฐบาลหันหน้ามาแก้ปัญหาร่วมกัน ปัญหาอย่างอื่นไม่เกิดขึ้นพี่น้องกลับไปทำมาหากิน ขอให้มีนโยบายที่ชัดเจนมีข้อสั่งการไปหน่วยงานต่างๆ ชาวบ้านสามารถอยู่ได้ ไม่มีการถูกดำเนินคดี ชาวบ้านก็ไม่มีแบบนี้หรอก” นายสิระ กล่าว
