“ป้าจุรี” คนดังดาวติ๊กตอก โกยรายได้ถึง 56 ล้าน? พร้อมเล่าเส้นทางชีวิตสุดลำบาก

ดาวติ๊กต๊อกคนดังอย่าง ป้าจุรี หรือ แม็กซ์ตรัย นุ่มแก้ว เนตไอดอลภาคใต้ ที่จะมาเผยชีวิตพลิกผันหาเงินได้ถึง 56 ล้านบาท พร้อมเล่าอดีตที่หาเช้ากินค่ำแบกข้าวสาร อีกทั้งยังเผยเรื่องครอบครัวรรยาและลูกๆ 3 คน ทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี เป๊กกี้ ศรีธัญญา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ยอดวิวคลิปสูงสุด?

จุรี : น่าจะ 7-8 ล้าน จากคนตาม 21 คนผ่านมา 11 เดือน เราไปดูคำค้นจุรี ประมาณ 400 ล้านครั้ง

เล่นคนเดียวในหลายตัวละคร?

จุรี : คนเดียว ทีมงานคนเดียว คือตัวเอง ทำคนเดียวหมด  บางคนบอกฟลุ๊คดังง่าย กว่าจะถึงทุกวันนี้ลำบากมาก เหนื่อย นอนตี 1 ตี 2 กว่าจะนั่งร่างว่าทำเรื่องอะไร ตอนนั้นทำหลายงานด้วย เป็นผู้ประกาศข่าว รับราชการ กลางคืนก็มานั่งทำแบบนี้

มีรายได้ 56 ล้าน?

จุรี : ล่อสรรพากรมากเลยนะ จริงๆโดยตัวเราคนเดียวสามารถหาเงินออนไลน์ให้แบรนด์ประมาณ 200 กว่าล้านบาทได้ รายได้เราก็ไม่หนีจากยอดที่บอกตอนแรก

ชีวิตก่อนหน้านี้?

จุรี : เหนื่อยมาก ย้อนไป 13 ปีที่แล้ว เราแบกความฝันแบกเป้าหมายของตัวเองมาสู้ชีวิตในกรุงเทพ มาเรียนหนังสือ อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต ที่บ้านไม่มีเงินเราคิดว่าเราต้องมีการศึกษาก่อน เราต้องหาค่ำกินเช้า หาค่ำวันนี้เพื่อกินเช้าวันถัดไป เราทำตั้งแต่เด็กๆไปหาปูเพื่อไปขายตอนเช้าเอาเงินไปโรงเรียนในวันถัดไป เราคิดว่าต้องมีการศึกษาเป็นพื้นฐานที่การ พยายามตั้งใจเรียนมาตลอด

แม่ให้เงินมาเรียนหนังสื่อที่กรุงเทพ?

จุรี : 9,000 ตอนนั้นแม่เชี่ยวชาญเรื่องการยืมเงินคนอื่น พอลงรถไฟก็คิดว่าหลังจากนี้จะไม่ขอที่บ้านอีกแล้ว เพื่อหาเงินไปเรียน ไปเป็นเด็กเสิร์ฟร้ายหมูกะทะ พนักงานเซเว่น แจกใบปลิว รปภ. เช่าห้องเดือนละ 2000 อยู่กัน 5 คน ระหว่างเราทำงานเราก็คิดว่าตรบใดที่เราไม่สบประสบความสำเร็จในชีวิต คนอื่น คนรอบข้างก็ยังดูถูกเราวันยังค่ำ เป็นแรงบันดาลใจให้รู้หน้าที่ตัวเองว่าให้รีบเรียนจบ ชีวิตจะได้ดีขึ้น

เริ่มจาดพนักงานเซเว่น แล้วไปแบกข้าวสาร?

จุรี : ที่เมืองทอง เวลาเค้าจัดบูทเราก็มีหน้าที่แบก เพราะค่าตัวมากกว่าได้วันละ 500 แบก สัก 10 วัน แล้วเอาเวลาไปอ่านหนังสือ พอ 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบ เราทำงานกะกลางคืน ก็กลับไปนอน แล้วมีช่วงก่อนเข้างานเราก็อ่านหนังสือ ถ้าชีวิตเรามีเป้าหมาย สิ่งที่ทำให้ไปถึงเป้าหมายคือแรงบันดาลใจ ตอนเรายังไม่มีครอบครัวใช้พ่อแม่เป็นแรงบันดาลใจ

จบปริญญาโท และสอบติดราชการ?

จุรี : ทุกวันนี้แม่แต่อนามัย ไปแต่โรงพยาบาลไปเบิกยาฟรี ให้สังคมได้รู้ว่าลูกรับราชการ  

มีประเดประดังเข้ามาในชีวิต?

จุรี : รับราชการทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวช่องนึงไปพร้อมกัน ตอนนั้นเค้าเปิดรับสมัครแข่งขันประกวดสุดยอดนักพูดของประเทศไทย เราก็ไปแข่ง 4000 คนในรายการ เรารู้สึกว่าเรามาทำอะไร มาเป็นเด็กบ้านนอกในรายการ สุดท้ายได้แชมป์รายการนี้ที่ 1 แล้วช่องเค้ากำลังหาผู้ประกาศที่เสียงสำเนียงไทยบ้านพอดี ก็ลองไปแคสดู ก็ได้ไปอ่านที่ช่อง จากพนักงานเซเว่นผ่านมา 7 ปี รายได้ขยับเป็นหลักแสน เราทำอะไรไม่ถูก เพิ่งจับเงินแสนใช้อย่างเดียว ซื้อบ้าน รถ ซื้อเมียมาคนนึง พอได้เงินมากเราก็ใช้จ่าย

แต่เกิดความไม่มั่นคง?

จุรี : โควิดที่ผ่านมา เราเป็นผลพวงได้รับผลกระทบ เป็นอุทาหรณ์วันใดวันนึงที่นายจ้างเค้าไม่พอใจ อยากมีคนใหม่ เค้าดีดเรา เราก็ต้องยอมรับในชะตากรรมนั้น มานั่งคิดทำอะไรไม่ได้ นั่งทุกข์ นับวันถอยหลังล้มละลาย กลับมาบ้านเจอเมียนั่งดูติ๊กต๊อกอยู่ ให้เมียออกจากงานเราเลี้ยงได้ แล้วเมียออกจริง เมียก็เชียร์ให้โหลดติกต๊อกมาจะได้หายเครียด แค่คลายเครียด มันหายจริงๆ ข่าวสารต่างๆไม่ต้องดูในทีวี เราคิดทำไมถึงไม่เปลี่ยนในฐานะคนดู มาทำอะไรให้เขาดูบ้าง

คอนเทนต์แรกที่ทำ?

จุรี : นั่งเล่าข่าวให้คนใต้ฟังเป็นภาษาใต้ ทำไปเดือนนึง คนตาม 27 คน ใครจะทำออนไลน์มีสิทธิ์ดังได้ทุกวัน เราก็ทำไปเรื่อยๆ หลังจากนนั้นทำคลิปเล่าเรื่องน้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ชั่วโมงเดียวเกือบ 4 ล้านวิว มันทำให้เราจับทางออนไลน์ได้ว่าคนชอบรู้เรื่องคนอื่น

ป้าจุรีมายังไง?

จุรี : จุรียุคแรกอะไรที่อยู่ในบ้าน เสื้อผ้าเมียต้องเอามาใส่ก่อน เอาผ้าขนหนูมาโพกหัวก่อนยังไม่มีวิก ที่ออกจากลุคผู้ประกาศข่าว เพราะมันเหมือนถึงทางตัน ทำเพื่ออยู่รอด ตอนนั้นไม่กลัวอะไรแล้ว ราชการความน่าเชื่อถือ ไม่กลัวอะไรแล้ว

ป้าจุรีมาแล้ว?

จุรี : วิกคือทุกอย่างมันจับมาใส่หมดเลย คนตามเยอะเพื่อนอินบ๊อกซ์มาว่าต้องทำให้ถึงกว่านี้ เครื่องประดับต้องได้ ได้ดูเพลินๆน่าดูกว่านี้ วิกนี้คือวิกที่ใส่เล่นตั้งแต่เรียนราม แล้วร้านมันเจ๊ง มันก็ส่งมาให้ใส่ฟรี แทบไม่ลงทุนอะไรเลย เสื้อผ้าตัวละ 5 บาทจากโรงเกลือ

ตัวตนจริงๆเป็นยังไง?

จุรี : มีลูกมเมียแล้ว เมีย 1 ลูก 3 แฝด 1 คู่ ภรรยาเป็นเพื่อนมากันตั้งแต่ม.ต้น คบกันหลังจบปริญญา

ภรรยาโอเคมั้ย?

จุรี : เค้าก็ต้องโอเคแหละ เพราะเค้าได้เงิน เค้าไม่เคยปริปากพูดสักคำ มีเมียมาช่วยบ้าง เราพยายามอธิบายลูกว่านี่คือเครื่องแบบของพ่อนะลูก เค้าเข้าใจ แต่งแบบนี้มากกว่า แค่ตอนนอนที่เป็นผู้ชาย ภรรยาทุกวันนี้เค้ายังบอกว่าเป็นความดีคงามชอบของเค้าที่คะยั้นคะยอให้เราเล่น เค้าก็คอยผลักดัน เราคือคนที่ส่งเราเรียนหนังสือระหว่างที่เราเรียนปริญญาโทแล้วออกจากงานมา วันนีได้ดียังเหมือนเดิมกับเมีย เพราะในวันที่เราลำบากเค้ายังไม่ทิ้งเรา

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

Next Post

"อั้ม พัชราภา" ยังไม่รอด! "เอ ศุภชัย" ถ่ายคลิปคู่ ทำแฟนๆ คอมเมนต์กระจาย

เรียกว่ามีโมเมนต์น่ารักๆ ออกมาให้เห็นอยู่ตลอดเลยก็ว่าได้ สำหรับซุปตาร์สาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ กับผู้จัดการส่วนตัวคู่หูคู่บุญ เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร เพราะเมื่อไหร่ที่ทั้งสองคนนั้นได้เจอกัน ก็จะสร้างรอยยิ้มได้ดีอยู่เสมอ ล่าสุด เอ ศุภชัย ก็ได้เผยคลิปขณะที่บินไปทำบุญที่ฮ่องกงกับ อั้ม พัชราภา โดยเป็นช่วงท […]