ผบช.น. แถลงเหตุ #ม็อบ16สิงหา ยอมรับการชุมนุมมีกระสุนจริง แต่ไม่ได้มาจากตำรวจ

ผบช.น. แถลงเหตุ #ม็อบ16สิงหา ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ยอมรับมีกระสุนจริง แต่ไม่ได้มาจากตำรวจ พร้อมโชว์ปลอกกระสุนแก๊สน้ำตา ยันส่วนที่เป็นโลหะยิงแล้วจะค้างอยู่ในลำกล้อง 

พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า เมื่อวานที่ผ่านมาหลังจากที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนที่ไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะกลับมาที่สามเหลี่ยมดินแดงและมีเหตุประทะกันรวมทั้งป้อมจราจรได้รับความเสียหาย 4 แห่ง คือในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง พหลโยธิน สุทธิสาร และห้วยขวาง และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 13 คน เป็นเยาวชน 5 คน

นอกจากนั้นยังมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นบริเวณสน.ดินแดง จนมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 คน โดยคนแรกอายุ 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิดที่ไหล่ขวา สอบถามเบื้องต้นให้การว่า ไปร่วมชุมนุมหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดง และถูกยิงโดยไม่ทราบผู้ก่อเหตุ จากนั้น ได้หลบหนีมาหาเพื่อน ซึ่งพักอยู่แฟลต 13 จากนั้น รถกู้ภัยมาทำแผลเบื้องต้น และได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.จุฬาฯ อาการปลอดภัย ขณะที่บิดาของผู้บาดเจ็บ แจ้งว่า ลูกชายบอกถูกยิงขณะขี่รถจักรยานยนต์ บริเวณโรคควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง แต่ยังไม่แน่ชัด เนื่องจากได้คุยกันไม่นาน

คนที่สองอายุ 20 ปี ถูกยิงบริเวณแยกดินแดง มุ่งหน้าแยกประชาสงเคราะห์ นำส่ง รพ.ราชวิถี ตรวจสอบไม่พบเอกสารแสดงตัว ถูกยิงบริเวณลำคอ วัตถุเป็นโลหะค้างที่บริเวณลำคอ ขณะนำส่ง อาการหมดสติกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี

ส่วนอีกหนึ่งคน ทราบชื่อ นายสุพัต อายุ 16 ปี ถูกโลหะยิงเข้าที่บริเวณเท้าขวา รักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรเวช และแพทย์ให้กลับบ้านแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน

พลตำรวจโทภัคพงศ์ ยืนยันว่า ชายอายุ 14 ปี ที่ถูกยิงบริเวณไหล่ขวา ได้สอบสวนบิดาของผู้บาดเจ็บเบื้องต้นแล้ว ให้การว่าน่าจะถูกยิงบริเวณโรงบำบัดน้ำเสีย ห่างจาก สน.ดินแดงประมาณ 50 เมตร ส่วนชายอายุ 20 ปี ที่โลหะฝังอยู่ที่ลำคอ พบว่าวิ่งมาจากโรงแรมปรินซ์ตัน ผ่านหน้า สน.ดินแดง และมาล้มลงที่บริเวณโรงบำบัดน้ำเสีย

ส่วนกรณีมีภาพเป็นชายยืนอยู่บน สน.ดินแดง และใช้ปืนยิงควบคุมสถานการณ์ ยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง แต่เป็นการใช้กระสุนยางยิงข่มขู่เพื่อป้องกันสถานที่ราชการ ไม่มีการใช้กระสุนจริง โดยจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสถานีตำรวจอีกครั้ง โดยพบว่า กล้องบางตัว สามารถจับภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของผู้บาดเจ็บได้อย่างชัดเจน ขณะที่ กล้องบางตัว ถูกผู้ชุมนุมนำวัสดุมาปิดกั้น และช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปจำลองเหตุการณ์ และตรวจวิถีกระสุนในระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระสุนที่ผู้บาดเจ็บถูกยิงมาจากทิศทางใด แต่ยอมรับว่าในพืนที่มีการใช้กระสุนจริง แต่ไม่ใช่ของตำรวจ

สำหรับยุทธวิธีการควบคุมฝูงชนนั้น ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตามแผน และเครื่องมือได้รับการอนุมัติจากมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่สามารถทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ผู้ชุมนุมมีอาวุธที่สร้างอันตรายกับตำรวจ และตำรวจจะเริ่มตอบโต้เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ความรุนแรง มีการเผาทำลายสถานที่ราชการ และจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

ส่วนกรณีการแชร์ข้อมูลที่บอกว่าผู้ชุมนุมถูกกระป๋องแก๊สน้ำตาเข้าที่ใบหน้าจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น พลตำรวจโทภัคพงศ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการทำหนังสือขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยรายละเอียดการรักษา และบาดแผลว่าเกิดจากอะไร พร้อมกับได้นำกระป๋องแก๊สน้ำตามาแสดงต่อสื่อมวลชนว่า ส่วนที่เป็นโลหะเป็นปลอกกระสุน เมื่อหลังยิงไปแล้วจะค้างอยู่ในลำกล้อง ส่วนที่ยิงออกไปคือวัสดุคล้ายยางทรงกระบอกที่ภายในบรรจุแก๊สน้ำตา เมื่อกระทบกับร่างกายจะไม่เกิดอันตราย และหากพบว่าผู้ใดมีการแชร์ข้อมูลที่ผิดก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงปัจจุบัน มีแล้ว 40 คดี ผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิด 309 คน จับแล้ว 152 คน และกำลังสอบสวนผู้ที่กระทำความผิดเพิ่มเติม

  • รพ.ราชวิถี รายงานอาการล่าสุด ผู้ชุมนุมถูกยิง กระสุนค้างที่ก้านสมอง 1 นัด อาการโคม่า
Next Post

รัฐบาลอนุมัติงบกว่า 9.3 พันล้าน จ่ายค่าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส หาเพิ่มอีก 10 ล้านโดส

ครม. อนุมัติกรอบวงเงินกว่า 9 พันล้านบาท ชำระค่าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส พร้อมรับทราบจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มอีก 10 ล้านโดส คาดส่งมอบได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ วันนี้ (17 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการจ […]