ผบช.ภ.1 สั่งเอาผิดกลุ่มอาชีวะ หลังเหตุปะทะหน้า สธ. ทำตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย

เหตุการณ์ชุมนุมทวงถามวัคซีนของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่หน้าประตูทางเข้าออกของกระทรวงสาธารณสุข หลัง ไบร์ท ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มราษฎรนนท์ ถูกจับกุมตัวพร้อม ม่อน ธนเดช ศรีสงคราม แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับบาดเจ็บมีแผลแผลแตกที่ศีรษะ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าควบคุมตัวนั้น

ต่อมาเมื่อ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลือแยกย้ายกลับ เนื่องจากใกล้เวลาเคอร์ฟิว ซึ่งจะผิดกฏหมาย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยแยกย้ายกลับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเคลื่อนย้ายรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงของกลุ่มผู้ชุมที่อายัดไว้เป็นหลักฐานส่ง สภ.เมืองนนทบุรีเพื่อตรวจสอบ ส่วนแกนนำทั้งสองคนคือนายชินวัตร กับ นายสุเทพ แซ่ลิ้ม ได้ถูกควบคุมตัวไปที่ดำเนินคดีที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1    

ต่อมาเมื่อเวลา 22.30 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 รุดตรวจสอบรายละเอียดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่มอาชีวะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้ากระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายชินวัตรก่อนหน้านี้ว่า จะเดินทางรวมกลุ่มมาเรียกร้องรอคำตอบเรื่องวัคซีน ซึ่งทางตำรวจได้เตรียมชุดควบคุมฝูงชนไว้ และได้พยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้เป็นไปตามมาตรการที่ต้องปฎิบัติ แต่ครั้งนี้มีกลุ่มอาชีวะที่นายธนเดชเป็นแกนนำมาเข้าร่วมด้วย มีการใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง จนเกิดความชุลมุนขึ้นประมาณ 2 นาที มีการใช้กำลังเข้าปะทะกับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ด้วยไม้และก้อนอิฐ โดยได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ววิ่งหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่ด้านนอก วิ่งเข้าระงับเหตุ แต่เหตุชุลมุนทำให้นายธนเดชได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 รายจากเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้น จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการรักษาต่อไป 

ผบช.ภ1 กล่าวอีกว่า สำหรับแกนนำคือนายชินวัตรและนายธนเดช จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และ ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่คิดว่าการชุมนุมในวันนี้จะเกิดการใช้กำลังด้วยความรุนแรงขึ้นมาได้ ทั้งที่ก่อหน้านี้ในการชุมนุมในจังหวัดนนทบุรี ไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาก่อน แต่ในวันนี้มีกลุ่มนอกพื้นที่อย่างกลุ่มอาชีวะมาเข้าร่วม แล้วก็เกิดความรุนแรง เหมือนกับวางแผนยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังโต้กลับแต่ไม่ได้ผล เพราะทางตำรวจไม่ได้อยากให้เกิดความรุนแรง จึงพยายามอดทนต่อการยั่วยุทุกอย่าง แต่ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเช่นกัน

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ถูกควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และสั่งให้ตรวจสอบรถกระบะของกลางที่ได้ยึดไว้ว่าเป็นของรถของใคร ใครเป็นเจ้าของ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า มีบุคคลใดใช้ความรุนแรง ก่อเหตุชุลมุนทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด อย่ารวมตัวกันและทำกิจกรรมเคลื่อนที่ เพราะจะทำให้เชื้อโรคกระจายจากคนไปสู่คน และการรวมตัวกันเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายตามประกาศ พรก.ฉุกเฉิน โดยในพรุ่งนี้ตนกับ รมว.สาธารณสุข จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย

Next Post

"ธนกร" สุดมั่น EU ถอดไทยจากลิสต์ประเทศปลอดภัยโควิด ไม่กระทบ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์"

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีอียู ถอดไทยออกจากประเทศปลอดภัยจากโควิด-19 ว่า แม้ทางอียู จะถอดไทยออกจากประเทศปลอดภัยจากโควิด-19 แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลก […]