ออกมาเปิดใจเคลียร์สำหรับ ฟ้าใส ปวีณสุดา ที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าเธอจะไม่ลงประกวดนางงามอีกแล้ว ทำเอาแฟนๆ หลายคนสงสัยกันยกใหญ่ ล่าสุด ฟ้าใส ก็ได้ออกมาเคลียร์ทุกประเด็นร้อนในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ไดม่อนมาสก์ภายใต้แบรนด์ บลิ้งบิวตี้ “คุณเปลี่ยนเพื่อคุณ”
ก่อนหน้านี้บอกจะไม่ประกวดนางงามอีกแล้ว?
“ก็อย่างที่ได้ชี้แจงไปในไลฟ์อะค่ะ คือมันจะมีในหลากหลายเรื่อง เรื่องของสัญญาด้วย และสำหรับฟ้าใสทุกคนก็จะรู้ว่าฟ้าใสเป็นคนเต็มที่เวลาที่ประกวด และถ้าสมมุติว่าเราออกมาแล้วไม่สามารถรีวิวผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เราเป็นพรีเซนเตอร์หรือว่าอาจจะไม่สามารถเต็มที่ได้กับการประกวดเราก็เลยรู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า”
เหมือนอยากประกวด แต่เงื่อนไขสัญญาที่ทำให้เราไม่ประกวด?
“เอิ่ม.. คือจริงๆ ทางบริษัทที่เราเซ็นสัญญาไปแล้ว คือเค้าก็บอกว่าถ้าจะไปประกวดก็ไปประกวดได้เลยนะแต่เนื่องจากเรื่องของรายละเอียดข้อตกลงที่สามสัญญาไปแล้วมันจะมีเรื่องของผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันบ้างและของอย่างอื่นที่ทำให้เราไม่สามารถเต็มที่กับบริบทของเวทีนั้นๆ ของที่เราจะประกวด”
เสียดายไหม เพราะอายุเราจะ 30 แล้ว?
“โหยพี่…อย่าพึ่งพูดว่าจะ 30 สิ (หัวเราะ) ตอนนั้นเราก็คิดว่าถ้าเราจะลงประกวดมิสแกรนด์ มันก็จะมีให้ตรงกับธีมของมิสแกรนด์ และฟ้าใสก็คิดว่าฟ้าใสเริ่มประกวดเมื่อปี 2013 ที่ไทยและปีหน้าก็จะเป็นปี 2023 ซึ่งจะครบ 10 ปี เนื่องจากพาสของเราเส้นทางของเรายุตติกับบทบาทของนางงามเพียงแค่เท่านี้ เราก็มองอีกมุมนึงนะคะว่าคำว่านางงามของเราคือนอกเหนือจากการเป็นผู้เข้าประกวดเราก็ยังเป็นโค้ชในการเทรนด์น้องๆ
ในปีหน้าฟ้าใสก็จะเป็นอีกจุดหนึ่งก็คือออแกไนเซอร์ ก็จะจัดเวทีเป็นของตัวเอง ถามว่าเสียดายมั้ย มันก็มีหลายมุมค่ะ หลายความรู้สึกแต่ว่าไม่ต้องห่วงนะคะทุกคนคือไม่ว่าฟ้าใสจะมาในฐานะผู้เข้าประกวดหรือผู้ช่วยพี่เอส PD ปทุมธานียังไงฟ้าใสก็ต้องร่วมงานกับพี่นวัฒน์หรือบอสอยู่แล้วค่ะ”
หลายคนมองว่าตอนที่เปิดตัวเวทีมิสแกรนด์ มันคือการสร้างกระแส?
“ก็อย่างที่หนูได้ชี้แจงและอธิบายไปก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้คิดว่าเราจะลงประกวดอีกแต่ก่อนหน้านั้นเราก็รู้สึกว่ามันเป็นจุดสูงสุดของเราแล้วพอเห็นแฟนนางงามมาเชียร์เราด้วยเราก็รู้สึกแอบนึกว่ายังอยากเชียร์เราอีกหรอ เพราะหลายครั้งเวลาที่เราเห็นนางงามกลับมาอีกครั้งนึงก็จะมองว่าหน้าช้ำไม่ควรกลับมาอะไรแบบนี้ พอตอนนั้นก็มีพี่เอสที่อยู่ข้างๆ เราด้วย เค้าก็บอกฟ้าใสเอาอีกไหมมันก็มีแบบว่าลังเลว่าเราจะลงดีมั้ย เพราะว่าลุคสุดท้ายในชุดราตรีเราก็อยากให้มันเป็นลุค ที่แบบฟินที่สุด ให้มันสุดกว่านี้ก็ตามนั้นค่ะ ก็จะไปสุดทางด้านนางงามอีกแบบนึงดีกว่า”
การประกวดก็ถือว่าสุดแล้วในตอนนี้?
“คืออายุมันเกินด้วยในตอนนี้ค่ะ”
อยากบอกอะไรกับแฟนนางงามที่อยากเห็นแล้วเข้าประกวดอีกและรอการกลับมาของเรา?
“ก็อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะที่คอยติดตามและคอยเชียร์สนับสนุนทุกเส้นทางของฟ้าใส และตอนนั้นก็มีข่าวว่าฟ้าใสจะกลับมาประกวดอีกไหมแต่ทุกคนก็พร้อมที่จะสนับสนุน และตอนนี้ถึงแม้จะไม่สามารถทำตามเส้นทางนั้นได้ แต่ทุกคนก็กลับมาให้กำลังใจและเข้าใจไม่ว่าฟ้าใสจะไปในเส้นทางไหน และปีหน้าฟ้าใสก็จะตามอีกเส้นทางหนึ่งก็คือจะไปกับโซเฟียที่ได้รองอันดับ 2 Miss Universe เค้าชวนหนูไปแคสติ้งที่ฮอลลีวูดด้วย”
รู้สึกยังไงที่เส้นทางนางงามในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก?
“สูงมากจริงๆและในแต่ละปีก็จะมีความเข้มงวดมากขึ้น อย่างปีถัดไปก็ต้องให้มาตรฐานดีกว่าปัจจุบันมันก็เลยทำให้นางงามและทีมนางงานเครียดไปด้วย”
อย่างก่อนหน้านี้ในปีที่ผ่านมาเราก็ได้มีการเทรนด์ให้มารีน่าด้วย?
“ใช่ค่ะ ก็เทรนในเรื่องของ Q&A ก็เห็นพัฒนาการของน้องตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่น้องได้ท็อป 5”
แล้วทำไมเราถึงไปเทรนด์ให้?
“อ๋อพอดีทางทีมจ้างฟ้าใสให้ไปเทรนให้”
น้องมีพัฒนาการการเรียนรู้อย่างไรบ้าง?
“คือเราก็ถามน้องก่อนว่าน้องมาประกวดเพราะอะไร เราก็ต้องหา stories ของน้องที่น้องมาประกวดให้แตกต่างจากคนอื่น ว่ามันเป็นยังไง และเราก็ต้องดูว่าการเรียบเรียงคำพูดเป็นยังไง คอนเทนท์เป็นอย่างไรสามารถตอบได้ใน 30 วิไหม ต้องเทรนว่าน้องกังวลในท๊อปปิกหรือคอนเทนท์ไหนก็จะซ้อมหนักแต่หลักๆคือผ่านซูมเพราะหนูก็ค่อนข้างงานเยอะเหมือนกัน แต่ก็มีคลาสหนึ่งที่ขอน้องไว้ว่ายังไงพี่ก็อยากจะเจอตัวต่อตัวนะเพราะเราจะได้รู้ว่าที่อยู่ในชีวิตจริงมันเป็นยังไงในเรื่องของบอดี้มูฟเม้นก็ต้องดูให้มันครบถ้วนมากที่สุดค่ะ”
หลังจากนี้แฟนๆ ก็จะได้เห็นฟ้าใสในบทบาทของนางงามมากขึ้น?
“ใช่.. แล้วก็อย่างที่บอกปีหน้าฟ้าใสก็จะมีเวทีเป็นของตัวเองด้วยก็ต้องฝากติดตามด้วยนะคะก็จะเป็นอีกหนึ่งมิติของเวทีนางงาม”
และอยากจะบอกอะไรกับคนที่ชอบเอาเวทีต่างๆ มาเปรียบเทียบกัน?
“สำหรับฟ้าใสไม่ต้องการที่หนึ่งขอเป็นแค่ Top ห้าในใจของทุกคนก็ดีใจแล้วค่ะ”
