ภูมิใจไทย แถลงยึดหลัก 3 ข้อ แจงเหตุคัดค้านสัญญาร่วมทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียว

“พรรคภูมิใจไทย” ออกแถลงการณ์ระบุ ยึดหลัก 3 ข้อ พิจารณาประเด็นแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นที่มาของการลาประชุม ครม. ยกทีมเมื่อวานนี้

วันนี้ (9 ก.พ.) นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.อ่างทอง เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง พรรคภูมิใจไทยยึดหลัก 3 ข้อพิจารณารถไฟฟ้าสายสีเขียว ถูกกฎหมาย – ประโยชน์ของรัฐ – ลดรายจ่ายให้ประชาชน เพื่อชี้แจงกรณีที่รัฐมนตรี 7 คนของพรรคไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากต้องการคัดค้านการแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน โดยมีเนื้อหาว่า

พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้บังคับบัญชา การไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นไปตามที่ได้เคยแสดงเจตนารมณ์กับนายกรัฐมนตรีไว้แล้วว่า หากมีการนำวาระนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะขอสงวนสิทธิ แสดงความเห็นคัดค้าน ในส่วนที่กระทรวงคมนาคมชี้ประเด็นว่า แนวทางที่ กทม. เสนอมา จะส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของรัฐและประชาชน

การไม่เข้าประชุม เป็นแนวทางหนึ่งที่จะรักษาบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี และการทำงานร่วมกันของรัฐบาล ไม่ให้มีความขัดแย้ง และได้แจ้งลาการประชุมคณะรัฐมนตรี ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ไม่ใช่หลบหน้า หรือ หายตัวไปเฉยๆ

ประเด็นสำคัญของวาระเพื่อพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ การแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมทุน ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณา และยังมีมุมมองที่เห็นต่างกันอยู่ ระหว่างกระทรวงคมนาคม กับ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะต้นสังกัดของ กทม.

กระทรวงคมนาคม ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีประเด็นคำถาม ที่ต้องการข้อมูลเอกสารจาก กทม. และยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงแสดงความเห็นคัดค้านการดำเนินการที่ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย และระเบียบ อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ส่วนต่อขยายจาก รฟม. ไปเป็นของ กทม. ซึ่ง กทม. ยังไม่ได้แจ้งว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรี แล้วหรือไม่

เรื่องค่าโดยสาร เป็นอีกประเด็นสำคัญ ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง ในฐานะที่เป็นผู้กำกับมาตรฐานการเดินรถ การประกอบกิจการของรถไฟฟ้า เห็นว่าสามารถจัดเก็บได้ต่ำกว่าที่ กทม. เสนอ และเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน จึงท้วงติงประเด็นนี้ พร้อมทั้งขอข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมว่าทำไมจึงต้องเป็น 65 บาท ในขณะที่กระทรวงคมนาคมคำนวณได้ต่ำกว่า 65 บาท

พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่าการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทย ยึดหลักการ 3 ข้อ คือ

1. พรรคภูมิใจไทย พิจารณาในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ และประชาชนสูงสุด พร้อมกันนี้ ต้องรักษามารยาทการร่วมรัฐบาล และไม่สร้างความขัดแย้ง ที่จะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล

2. พรรคภูมิใจไทย เสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ คือ กทม. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบ และหลักธรรมาภิบาล ซึ่งหากมีการดำเนินการครบถ้วน มีข้อมูล เอกสารใหม่ที่ครบถ้วน พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะพิจารณาใหม่ และให้ความเห็นชอบ

3. พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร คุ้มครองประชาชนผู้บริโภค หรือประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการกำหนดราคาค่าโดยสาร และได้รับการบริการที่ดี เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบกิจการ

การไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นท่าทีที่ทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาโครงการนี้อย่างรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง และมอบให้กระทรวงมหาดไทยตอบคำถามของกระทรวงคมนาคมให้ครบถ้วนก่อน แล้วเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีความขัดแย้งกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แต่การทำงานของพรรคมีแนวทางที่ชัดเจน คือ ต้องถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ของประชาชน หากเป็นไปตามนี้ เราไม่มีเหตุที่จะคัดค้าน และพร้อมให้การสนับสนุน

 

Next Post

ส.ส. ส่วนใหญ่ อนุมัติรัฐบาลยื้อ #สมรสเท่าเทียม ไปอีก 60 วัน

สภาผู้แทนราษฎรลงมติเมื่อวันพุธ (9 ก.พ.) อนุมัติให้รัฐบาลยื้อการพิจารณาร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่จะเปิดทางให้คู่รักเพศเดียวกันสมรสกันได้ ออกไปอีก 60 วัน การลงมติดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแสดงตัว 350 คน เห็นชอบให้คณะรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขกฎหมายนี้ไปศึกษา 219 เสียง คัดค้าน 118 เสียง งดออก […]