“ภูมิ ภูริพันธ์” เปิดเส้นทางเทรนเนอร์หนุ่มชีวิตติดลบ สู่ นักแสดงดาวรุ่งอนาคตไกล

เป็นนัแสดงหนุ่มที่ได้รับความสนใจไม่น้อย สำหรับ ภูมิ-ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์ นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งผู้ที่รับบท “ไม้” ในละครสุดเข้มข้น “มงกุฎกรรม” ออนแอร์ ทางช่อง 8 ที่เรื่องนี้อ ภูมิ ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงนำเต็มตัวเป็นเรื่องแรก และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

และเมื่อ มีโอกาสได้พูดคุยกับดาวรุ่งน่าจับตามองคนนี้ เลยต้องให้เจ้าตัวเผยถึงผลงานสุดเข้มข้น พร้อมกับถือโอกาสเปิดเส้นทางชีวิตของ ภูมิ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทุ่มเทสุดกำลังเพื่อเป็นเสาหลักให้ครอบครัว จากต้นทุนชีวิตที่ติดลบ สู่เส้นทางในวงการบันเทิง 

“มงกุฎกรรม” ละครน้ำดี เข้มข้น แฝงแง่คิด

“มงกุฎกรรม เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัว ครอบครัวหนึ่ง ที่ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไรมา แม่เจอวิบากกรรมมาตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงาน จนแต่งงาน มีลูกก็ยังต้องเจอวิบากกรรม จนลูกโตก็ยังไม่หยุด เรื่องราวเข้มข้นขึ้นตลอดเวลา ตัวละครเจอเรื่องราวต่างๆ นานา อย่างแม่ต้องไปอยู่วัด ขอข้าววัดกิน แม่อาจจะต้องไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน ไปเป็นลูกจ้าง ไปทำอะไรหลายๆ อย่าง เราจะได้เห็นว่าชีวิตของแม่จันทร์ ตั้งแต่เริ่มต้นว่าเขาเผชิญกับอะไรมาบ้าง จนชีวิตหักเห ชีวิตดีขึ้น แล้วเพราะอะไรที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น ทำไมเขาต้องเจอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดูมาก เข้มข้นมาก รวมทั้งเรื่องนี้เราจะได้เห็นว่าแต่ละตัวละครที่เขาคิด ตัดสินใจในแต่ละอย่าง มันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ต่างๆ ซึ่งแฝงมาด้วยคติสอนใจที่คนจะสามารถนำมาย้อนใช้กับชีวิตได้ ทำแบบไหนก็ได้แบบนั้นครับ”

“พอรู้ว่ามีโอกาสได้เล่นและเป็นบทนำเรื่องแรกของผมด้วยก็ตื่นเต้นมากครับ กดดัน เพราะว่าหนึ่งเลยคือต้องเข้าฉากกับพี่ๆ นักแสดงมืออาชีพหลายๆ คนที่เราเห็นเขาผ่านหน้าจอมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ เครียดว่าเราจะไปถ่วงพี่ๆ เขาหรือเปล่า ต้องคอยปรึกษาหลายๆ คนที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือภูมิ อย่างต้องเข้าฉากกับพี่แอน สิเรียม โอ้โห แค่รู้ว่าต้องร่มงานผมก็เกร็งแล้วครับ”

ละคร มงกุฎกรรม

“ถามว่าบท ไม้ ยากยังไงบ้าง คือ ตัวไม้เป็นคนที่มีเรื่องราวภูมิหลังในชีวิต ครอบครัวของไม้ค่อนข้างต่างมากพอสมควร เราไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ไม้เคยเจอ ด้วยเรื่องของแม้เขาที่มีภูมิหลังและเขาก็รับรู้ก็เลยค่อนข้างยากที่จะทำความเข้าใจและแสดง สื่อมันออกมา ต้องทำความเข้าใจเยอะๆ อ่านบทเยอะๆ และตอนที่เล่นไปเราก็ต้องเรียนรู้ไปในตัวด้วยว่าคาแร็กเตอร์เป็นยังไง ระหว่างทางเราก็ซึมซับความเป็นไม้ไปเรื่อยๆ ครับ”

“เรื่องฟีดแบคคือภูมิจริงๆ ภูมิทำใจไว้อยู่แล้วครับว่าอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อาจจะโดนวิจารณ์บ้าง อาจจะโดนว่าบ้าง เพราะภาพจำของผู้ชมอาจจะจำช่วงที่ไม้ยังเด็ก ที่น้องๆ แสดงเอาไว้ได้น่ารักมาก แต่พอเวลาผ่านไป 10 ปี แล้วต้องเปลี่ยนตัวละครไปเลย ผมก็เตรียมใจกับเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาค่อนข้างดีครับ แฟนๆ ก็ชม และยังติดตามละครอยู่ ผมก็ดีใจครับ เวลามีคอมเมนต์มาผมก็แคปไว้ ครับ”

รับบทนำเต็มตัวเป็นเรื่องแรก

“โอ้โห กดดันมากครับ อย่างเมื่อก่อนจะได้รับบทแบบ น้องพระเอก น้องนางเอก พอมาเรื่องนี้รับบทนำราก็ต้องรัดกุมขึ้น ทำความเข้าใจความคิด และทำการบ้าน ทำความเข้าใจเหตุผล ที่มาที่ไปของตัวละครให้มากขึ้นครับ สำหรับผม ถามว่าคาดหวังจะผลงานชิ้นนี้ไว้ยังไง ก็คาดหวังครับ อยากให้คนดูรู้สึกอินและชอบตัวละคร แต่ก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่ง เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องโดนอะไรแน่ๆ แต่ถือว่าออกมาดีครับ ดีใจครับ ถือว่าหายเหนื่อยเพราะตอนทำงานเต็มที่และกดดันมากครับ ยังไงผมต้องฝากแฟนด้วยนะครับ ใครที่ยังไม่ได้รับชมก็สามารถชมย้อนหลังได้นะครับที่ยูทูบช่อง 8 ทุกตัวละครมีเรื่องราว มีปมที่ต้องแก้ไข ทุกตอนเข้มข้นแน่นอนครับ”

ชีวิตกว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“ยากอยู่ครับ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมไม่พร้อมทางด้านงานในวงการ คิดว่าไม่น่าจะทำได้ ก็เลยหักเหไปว่าจะไปเป็นเทรนเนอร์ แต่พอดีว่ามีโอกาสเข้ามาเลยคว้าเอาไว้ก่อน แล้วพอเราคว้าโอกาสไว้แล้วค่อนข้างมีโอกาสเข้ามาต่อเนื่อง แต่ก็มาเจอโควิด ก็ต้องหยุด แบบโซซัดโซเซ เป๋ไปอีกครับ”

จากหนุ่มนักกีฬาว่ายน้ำ เทรนเนอร์ สู่นักแสดง

“จริงๆ ภูมิเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก พอดีว่าช่วงปี 1 มีโอกาสได้ประกวดเดือนมหาวิทยาลัยและได้รับเลือกเป็นเดือน ประจวบกับน้าของบูมเป็นรุ่นน้องของผู้ดูแลศิลปิน และแคสติ้งของอาร์เอส น้าเลยให้บูมลองมาแคสติ้งดู แล้วทางผู้ใหญ่ให้โอกาสให้เราผ่านเลยได้เซ็นสัญญาครับ”

ภูมิ ภูริพันธ์

“ส่วนกีฬาว่ายน้ำตอนนี้ผมพักไปเลย พักยาวครับ จริงๆ ภูมิเลิกว่ายน้ำมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เพราะภูมิรู้สึกว่าการว่ายน้ำเป็นอาชีพของภูมิไม่ได้ อย่างแรกเลยคือค่าใช้จ่ายมันต้องมี มันไม่สามารถทำให้เราเลี้ยงครอบครัวได้ แล้วโอกาสมันก็ยากมาก ภูมิก็เลยหาวิธีอื่น เช่น สอนว่ายน้ำ ที่เป็นอาชีพได้ ภูมิก็เลยว่ายแค่ตอนแข่งให้กับมหาวิทยาลัย แล้วไม่ได้ซ้อมต่อ แต่ไปสอนว่ายน้ำแทนครับ”

เคยถอดใจหันหลังให้วงการมาแล้ว

 “ถามว่าชอบงานด้านนี้อยู่แล้วหรือเปล่า หึ! ไม่ชอบเลย คิดว่าทำไม่ได้ด้วยครับ ที่มาเพราะน้าอยากให้ลอง เราก็โอเคมาก็ได้ ตอนแรกเราก็นึกในใจว่าไม่ได้หรอก มาแคสไปยังงั้นแหละ ผมรู้สึกว่าเราคงไม่เหมาะกับวงการบันเทิง เราอาย เราเขิน เราไม่มีความกล้าที่จะแสดง บวกกับไม่มีความรู้ด้านนี้เลยแล้วจะทำได้ยังไง พอเข้ามาเซ็นต์สัญญา เวลา 4 ปี ผมมีเอ็มวีแค่ 2 ตัว แคสติ้งละครก็ไม่ผ่านเลย จนเรารู้สึกว่าไม่เหมาะกับวงการนี้แล้ว เราออกดีกว่า แล้วพอดีช่วงฝึกงานมีโอกาสได้เล่นซีรีส์อีกครั้งก็เลยตัดสินใจลองดู เพราะจริงๆ เราสับสน ไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหน

“เพราะตอนนั้นไม่ได้อยากอยู่ในวงการแล้ว บอกกับทางช่องแล้วด้วยว่าจะขอคืนสัญญา แต่พอมีซีรีส์เข้ามาก็เลยตัดสินใจลองอีกที แต่ก็ยังยึดอาชีพเทรนเนอร์เป็นหลัก คิดแค่ว่ารับจ็อบเป็นนักแสดง ถ้าได้เล่นก็เล่น แต่คราวนี้พอได้ทำแล้วชอบ มันท้าทาย มีอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเจอ แต่พอเล่นไปแล้ว ทำงานเทรนเนอร์ไปด้วย ภูมิไม่สามารถทำสองอย่างพร้อมกันได้ เทรนเนอร์ก็ต้องใช้ร่างกาย การแสดงก็ต้องใช้ร่างกาย มันเหนื่อยมากครับ ภูมิเอาเวลาพักตอนฝึกงานมาถ่ายละคร มันทำให้ภูมิเบลอครับ มาคิดได้ว่าถ้าทำสองอย่างพร้อมกันมันจะพังทั้งคู่ เลยต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่ฟิตเนส พี่เขาบอกว่า น้องลองไปทำงานในวงการก่อนมั้ยเพราะมีโอกาส ถ้าเราไม่ไหวจริงๆ แล้วจะกลับมาที่ฟิตเนสก็พร้อมต้อนรับ ขอบคุณพี่ๆ มากๆ ครับที่ให้โอกาสได้ลองและได้ทำงานต่อมาเรื่อยๆ ครับ”

ภูมิ ภูริพันธ์

ชีวิตที่ติดลบ ดิ้นรนเพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัว

“ก่อนหน้านี้ภูมิสอนว่ายน้ำ เทรนด์ฟิตเนสครับ ทางครอบครัวภูมิเรียกว่าต้นทุนชีวิตเรียกว่าติดลบเลยครับ ถ้าให้เล่าคือเรื่องยาวมาก คร่าวๆ ก็คือเคยเก็บเศษเหรียญมาใช้กัน ไม่มีเงินเลย เซ็นกับข้าว ไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่เพื่อที่จะทำขนมขายอะไรแบบนี้ครับ ผมเองก็พยายามอยากดูแลครอบครัว อย่างช่วงมัธยมก็เห็นพ่อแม่ลำบาก ถ้าเราพอมีหนทางก็อยากจะช่วยครับ ส่วนตอนนี้ก็ดีขึ้นครับ พอภูมิมายึดอาชีพนักแสดงเป็นหลัก อาชีพนี้ก็ทำให้เรามีรายได้ที่สามารถดูแลครอบครัวได้ครับ”

เป้าหมายอนาคตหลังจากนี้

“ภูมิยังไม่ได้มองไกลมากครับ ตอนนี้ภูมิมองว่าอยากจะทำงานที่ภูมิได้รับมาให้ดีที่สุด ให้เต็มที่ที่สุดไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนหรือโอกาสใดๆ ที่เข้ามา คือ ตั้งแต่แรกภูมิไม่ได้มองว่าภูมิอยากจะเข้ามาอยู่ในวงการแต่พอมีโอกาสได้ทำแล้วมันสนุกแล้วกลายเป็นว่ารักในการแสดงแล้วอยากที่จะทำมันให้ดีที่สุดครับ ยังไม่ได้โฟกัสว่าต้องไปได้เท่านี้เท่านั้นนะ แค่ทำตอนนี้ให้ดีที่สุด เพราะผมรู้สึกว่ายิ่งเราคาดหวังมากเกินไปมันจะยิ่งทำออกมาได้ไม่ดีครับ”

เป็นอีกหนึ่งหนุ่มดาวรุ่งที่มีความตั้งใจอยากจะเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวผ่านการทำงานของตัวเองมาตลอด และวันนี้ ภูมิ มีโอกาสได้โชว์ฝีไม้ลายมือผ่านผลงานต่างๆ ยังไงแฟนๆ ก็อย่าลืมติดตามผลงานของ ภูมิ ทั้งละคร มงกุฎกรรม และ ผลงานชิ้นอื่นๆ หลังจากนี้ เชื่อว่าหนุ่มไฟแรงคนนี้ต้องมีงานดีๆ มาให้ผู้ชมได้ติดตามแบบรัวๆ แน่นอน

Next Post

Eisai and Merck & Co., Inc., Rahway, NJ, USA Provide Update on Phase 3 LEAP-002 Trial

TOKYO and RAHWAY, N.J., Aug 4, 2022 – (JCN Newswire via SEAPRWire.com) – Eisai and Merck & Co., Inc., Rahway, NJ, USA (known as MSD outside the United States and Canada) today announced that the Phase 3 LEAP-002 trial investigating LENVIMA, the orally available multiple receptor tyro […]