“พรรครวมไทยสร้างชาติ” กลายเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ถูกพูดถึงอย่างมากภายในชั่วข้ามคืนไปเลย หลังจากที่ “แรมโบ้อีสาน” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นายเสกสกล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชอบและตั้งคำนี้ขึ้นมาเอง แต่ผมเกรงว่าคนอื่นจะนำชื่อนี้ไปใช้ จึงส่งทีมงานไปจดทะเบียนเป็นชื่อพรรคไว้ก่อน นายกฯ จะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่”
นอกจากนี้ เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนได้แจ้งให้นายกฯ รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร ขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากแล้ว มีการตั้งสาขาและหาสมาชิก แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง โดยในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมใหญ่และเปิดตัวผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มีประวัติดี โปรไฟล์ดี แถมยังแย้มว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ล็อตแรกออกมาก่อน และจะทยอยเซอร์ไพรส์เรื่อยๆ แต่ขอไม่เปิดเผยว่าจะมีใครมาร่วมงานบ้าง แต่มี ส.ส. อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีมาร่วมด้วยแน่นอน
ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายเสกสกล ระบุว่า ยังบอกไม่ได้ แต่ยืนยันจะมีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหลายคนทยอยลาออกตามมา พร้อมกับกล่าวให้เชื่อมั่นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นนอมินี หรือเป็นพรรคสำรองของใคร
อย่างไรก็ตาม นายเสกสกล เผยว่า ตนไม่ได้แจ้งการลาออกกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้รับทราบ เพราะตนเป็นเพียงสมาชิก ไม่ได้มีบทบาทในพรรคแต่อย่างใด แต่ก็ยังคงเคารพ พล.อ.ประวิตร เช่นเดิม
เมื่อเอ่ยถึงเหตุผลในการยังคงสนับสนุน “บิ๊กตู่” เป็นผู้นำประเทศนั้น คำตอบจากปากขององครักษ์พิทักษ์นายกฯ คนปัจจุบัน เฉลยว่า “แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้เก่งกาจทางการเมือง แต่เป็นคนตั้งใจทำงาน ดังนั้นผมจะไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกกระทำหรือโดดเดี่ยวเดียวดาย”
ข้อมูลเบื้องต้นของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”
มีการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 ปัจจุบันพรรคนี้มีคณะกรรมการบริหารพรรค 27 ราย มีสมาชิก 2,967 ราย ตั้งอยู่ที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
ใช้ตราสัญลักษณ์ เครื่องหมายหกเหลี่ยม มีแถบสีสามสี ได้แก่ ทอง ขาว และน้ำเงิน โดยตราสัญลักษณ์หมายถึง การหลอมรวมประชาชนชาวไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าให้มั่นคงยั่งยืน สร้างความสามัคคีของคนไทยทุกคน และทุกภาคส่วนของสังคมไทย ในการร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง โดยยึดถือหลักความมั่นคง แหละศรัทธาสูงสุดต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
รายชื่อกรรมการบริหารพรรค 27 ราย ประกอบด้วย
ว่าที่ร้อยโท ไกรภพ นครชัยกุล หัวหน้าพรรค
นางวาสนา คำประเทือง เลขาธิการพรรค
นายยงยุทธ พัฒนชัย เหรัญญิกพรรค
นายจีรวัฒน์ ตุลาพัฒน์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
บุคคลอีก 23 ราย เป็นกรรมการบริหารพรรค ได้แก่ นางวันจรัส จำเริญกุล, นางวิไล จันตะเสน, นายสุภาพ พิลาเจือ, นายคณาวิทย์ ธรรมขันแข็ง, น.ส.แคทลียา อุทัยเลิศ, นายจรัส อุปละ, น.ส.ปิยะมาศ เอี่ยมสำอาง, นางเยาวเรศ อาจหาญ, นางจำนงค์ ใจติขะ, น.ส.ฐิตาภรณ์ พันธ์จรุง, นางประจง ประสารฉ่ำ, นายแก้วเล็ก เหลืองอุดมเลิศ, นายกรกฤช โป๊ะตะคาร, นายอาทิตย์ ตั้งธรรม, นางกุหลาบ นครชัยกุล, นางรัชนีย์ พิมพ์ประสงค์, นางทองหลาง พิลาเจือ, น.ส.ศศัญพิน รัตนานุพงศ์, นายพินิจ ไกยะฝ่าย, นางอรวรรณ สารกุล, นายวรวิทย์ พัฒนชัย, น.ส.ตรีญานุช ศรีแพงมน และ น.ส.วิไลวรรณ ทรัพย์พงษ์
ท่ามกลางปี่กลองทางการเมืองที่ดังเซ็งแซ่อยู่ในเวลานี้ว่าการเลือกตั้งใหญ่กำลังจะมาถึง พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ถูกแสงไฟสปอตไลต์ฉายสาดส่องเข้ามาพร้อมกับคำถามที่ยังรอคำตอบอย่างชัดเจนว่า นี่คือพรรคการเมืองที่จะเป็นฐานที่มั่นทางการเมืองครั้งใหม่ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในปฏิบัติการหวนคืนกลับทำเนียบรัฐบาลในสมัยหน้าหรือไม่ ว่ากันว่า ตอนนี้มีบุคลากรระดับ “บิ๊กเนม” บางคนเข้าไปขับเคลื่อนพรรคนี้และอีก 1-2 พรรค เพื่อรอคำตอบสุดท้ายจากผู้ยิ่งใหญ่บนตึกไทยคู่ฟ้าว่าจะเลือกแบบไหน
คงต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะอีกไม่นานเกินรอ เราคงได้รู้คำเฉลยอย่างแน่นอน!!!
