หลังจากที่ทำเซอร์ไพรส์ให้แฟนละครวิกหมอชิตให้ได้ร้องเฮ! ด้วยข่าวใหญ่เรื่องการกลับมาซบอกช่อง 7 แถมยังจรดปลายปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด
ล่าสุด! ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ นางเอกสาวชื่อดัง ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงข่าวดีครั้งในงาน พิธีมหาพุทธาภิเษก สีผึ้งเมตตา สมปรารถนา พันล้าน รุ่น 888 กูให้มึงรวยเศรษฐีพันล้าน ณ วัดเทพสีดาราม เจดีย์เจ้าสมปรารถนา จังหวัดมหาสารคาม พร้อมเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาเป็นนักแสดงมีสังกัดอีกครั้ง
ทำไมถึงกลับไปตัดสินใจเซ็นสัญญาอีกครั้ง ?
“โดยส่วนตัวการที่ ขวัญ เป็น อุษามณี ขึ้นมาทุกวันนี้ ขวัญแยกไม่ได้ว่าขวัญมาจากช่อง 3 หรือช่อง 7 หรือว่าผู้ใหญ่ทุกๆ ที่ ทั้งช่อง 3 ช่อง 7 หรือตอนนี้ไปอยู่ในเรื่องออนไลน์มีเดีย ทุกท่านเป็นคนที่สร้างขวัญมากันหมด อย่างวันหนึ่งในเมื่อผู้ใหญ่เปิดรับโอกาสเราให้เราไปอยู่ ณ ที่นี่ เราเป็นเด็ก ถ้าเราไม่รับโอกาสคงดูไม่น่ารักเท่าไหร่ แล้วเราคงอยากอยู่ที่ไหนก็คงอยากให้มีแต่คนรักเรา”
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจไปเป็นนักแสดงมีสังกัดอีกครั้ง ?
“อบอุ่นค่ะ ด้วยรักและเคารพ และศรัทธา มันเป็นที่ที่เราอยู่ตั้งแต่เด็ก หรือว่าวันที่เราเข้าไปบอกผู้ใหญ่ว่าเราขอออกมาเรียนรู้ในเรื่องของชีวิต เราก็พูดกับผู้ใหญ่ตรงๆ ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาส จนวันหนึ่งเราได้เรียนรู้ เข้มแข็งขึ้นแล้ว ก็กลับมาถ่ายละครที่ช่องเราเหมือนเดิม”
ดีลนี้ใช้เวลาดีลนานไหม?
“ไม่เห็นนานเลย พี่เขาคุยกับคุณแม่ กับขวัญ คือไม่ได้คุยแบบจริงจัง เพราะยังไงเราก็รักและผูกพันอยู่แล้ว คือเราคุยกับพี่ผู้ใหญ่ที่ช่องอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าเราออกมาแล้ว เราจะไม่คุยกันเลย ไม่เจอกันเลย แต่เราคุยกับตลอด เพราะเราก็เป็นพี่น้องกัน”
ครั้งนี้เซ็นสัญญากี่ปี ?
“3 ปี หรือ 5 ปีนี่แหละ”
ในการกลับมาเซ็นครั้งนี้มีข้อกำหนดอะไรไหม ?
“ก็ไม่มีนะคะ เหมือนเดิม สัญญาช่อง 7 เป็นยังไงก็เป็นเหมือนเดิม แต่ว่าเราจะไปไหน ทำอะไรก็บอกกันก่อน”
ตามที่เคยมีข่าวมาว่าถ้าเป็นนักแสดงช่อง 7 แล้ว ห้ามไปออกช่องไหน ยังอยู่ในสัญญาไหม ?
“ก็ยังมีอยู่ แต่ด้วยตามมารยาทเราก็จะแจ้งพี่ๆ ผู้ใหญ่ไป เพราะเรามีธุรกิจ เราต้องขายของแต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่การคุย เราคุยกัน เจราจากัน ต่อรองกัน และก็มีการขออนุญาตกัน คุยกันว่าพ้อยท์หลัก ถ้าเราจะไปออกช่องอื่นคืออะไร เราได้อะไร และพี่ๆ ที่ช่องก็ยังมาช่วยในเรื่องของธุรกิจของเราด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เพราะถ้าเปรียบว่าเรายังเด็ก เวลาเราไปไหน ไปทำอะไร เราก็ต้อวบอกพ่อแม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน และถ้าเราไปไหนไม่บอกเขาเลย มันก็ไม่ได้ เราต้องให้เกียรติเขานิดนึง”
คนมองว่าการกลับมาคราวนี้เป็นการซื้อตัวกลับมา กับค่าตอนที่มากขึ้น ?
“เออ…เรื่องนี้ก็คือ ขวัญก็ยังผ่อนบ้านเหมือนเดิม (หัวเราะ) เราก็ยังมีหนี้เหมือนเดิม การที่เรากลับมา เพราะกลับมาด้วยใจ แต่เรื่องเงินก็ส่วนนึง มันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริม แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือเรื่องจิตใจ กลับมาด้วยใจมากกว่าค่ะ”
กลับมาคราวนี้ ละครเรื่องแรกร่วมงานกับ “เติ้ล ตะวัน” ?
“ใช่ค่ะ แต่ในส่วนของพาร์ทละคร รอให้ช่องเป็นคนแถลงดีกว่าค่ะ”
ที่ผ่านมาการเป็นนักแสดงอิสระเป็นไงบ้าง ?
“ก็เหนื่อยค่ะ (ยิ้ม) เพราะว่าอย่างตอนแรกขวัญมีคุณแม่ใช่ไหมค่ะ และตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ตอนนั้นเราขอรับงานเอง เพราะเราเริ่มทำหลายด้าน มีธุรกิจแม่บ้านด้วย งานละครด้วย และตอนนี้นักแสดงที่ออกมาเป็นอิสระก็จัดโปรโมชั่นให้ตัวเองแบบเสร็จสรรพ และเหนื่อยที่ว่าเรตค่าตัวน้อยลง เราดั้มราคาสู้คนอื่นไม่ไหว แต่เราอยู่ที่ช่อง เรตค่าตัวเราก็จะเป็นตามกระบวนการที่ช่องกำหนดให้”
แสดงว่าวงการนักแสดงอิสระ ไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนแต่ก่อน ?
“มันก็แล้วแต่งาน เพราะบางงานที่มีติดต่อมาก็มีบิดกัน ขวัญว่าการที่เรากลับมาเป็นนักแสดงช่อง กลับมามีผู้ใหญ่ดูแลเรา ให้คุณแม่ดูแลเหมือนเดิม ง่ายกว่า จบดีลเร็วกว่า ไม่งั้นถ้าเราต้องดีลทุกขั้นตอน เรตเท่านี้นะ คนดูเท่านี้นะ ขวัญลดได้ไหม ซึ่งอันไหนช่วยได้เราก็ช่วย แต่บางงานเราจะมาดั้มราคาแข่งกับคนอื่น เราก็ไม่ไหวใช่ไหมค่ะ เราต้องอยู่ด้วยคุณภาพเป็นหลัก อยู่ด้วยความสุข เพราะการที่เราออกงานที เราต้องมีค่าใช้จ่าย”
การกลับมาครั้งนี้ แฟนๆ รอคอย และมาพร้อมความกดดันในเรื่องเรตติ้ง ?
“ขวัญต้องขอบคุณแฟนๆ ละคร ที่คิดถึงขวัญตลอดเวลา ยินดีต้อนรับเราในทุกๆ แพลตฟอร์ม ทุกจังหวัดที่เราไป อย่างเรามางานที่มหาสารคาม พี่ๆ ขาวบ้านก็มาให้กำลังใจ เขารู้จักขวัญจากงานละคร ทำให้ขวัญอุษามณีไปไหน ก็ได้รับรอยยิ้ม ได้รับความรักจากทุกคนเสมอ”
กลับมารอบนี้มันกดดันไหม งานละครที่มันเยอะขึ้น งานธุรกิจ แบ่งเวลายังไง ?
“ตอนนี้อยู่ตัวแล้ว คือขวัญทำงาน ด้วยความสุข เราไม่ได้ทำงานด้วยความหวังของคนอื่น ขวัญอยู่เพื่อความหวังของขวัญเอง เรามีความสุข เราอยู่ที่ไหน ขวัญทำ แต่ถ้าเกิดว่า อยู่ที่ไหน แล้วไม่มีความสุข ขวัญก็บาย”
