โลดแล่นอยู่ในวงการมากว่า 30 ปี สำหรับ เจนนิเฟอร์ คิ้ม หรือ พรพรรณ ชุนหชัย ศิลปินหญิงระดับแถวหน้าของประเทศไทย ที่ล่าสุดเธอออกมาเปิดใจกับพิธีกรชื่อดัง หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ช่องเวิร์คพอยท์ 23 ถึงช่วงเข้าวงการใหม่ๆ พร้อมเผยปมในใจสุดช้ำเพราะถูกบูลลี่มาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยเอามาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
ทราบมาว่าคุณแม่ของ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ตัวจริงสวยมาก ?
“เขาก็ใช้ความสวยเนี่ยแหละจับผัว (หัวเราะ) จริงๆ แล้วคุณแม่เป็นลูกชาวนา เป็นคนอีสาน ความสวยของแม่คือเขาสวยเหมือนดาราในยุคนั้น นางงามในยุคนั้น จนมาไหนไปไหนคนจะไม่เชื่อว่าเราเป็นลูกแม่ ซึ่งการบูลลี่เกิดขึ้นในเวลานั้น แต่ไม่มีใครทำอะไรเราได้เพราะเรายอมรับในสิ่งนั้นไปแล้ว จนตอนโตคิดได้ว่าถ้าตอนเด็กปากไวแบบนี้เราจะบอกว่าหนูเป็นลูกติดผัวเก่าแม่
คุณแม่ของ เจนนิเฟอร์ คิ้ม
แม่ให้ทุกอย่างยกเว้นความสวย ?“ตอนเตี่ยยังมีชีวิตอยู่เราก็จะจับมือถามแม่ตลอดตั้งใจไว้อย่างแรก อันที่สองอยากถามว่าเปิดไฟไหมหรือหลับหูหลับตากันทำเราออกมา ซึ่งแกก็จะหัวเราะ แม่ก็จะบอกว่า ‘มึงเป็นลูกที่ขี้เหร่ที่สุดของแม่แต่เป็นคนที่ฉลาดที่สุด’ (ยิ้ม)”
เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นผู้หญิงกลางคืน ?
“อย่าว่าแต่เป็นผู้หญิงกลางคืนเลยค่ะ ‘เราเป็นผู้หญิงหากินกลางคืน’ เพราะเราร้องเพลงตอนกลางคืน จะให้มาร้องเพลงตอนพระบิณฑบาตไม่ได้ ซึ่งช่วงนั้น 30 ปีก่อน ที่ขายเสียงเพลงเราได้ค่าตัววันละ 45 นาที 150 บาท ซึ่งเมื่อไหร่ที่เขาจ้างงานเรามันคือชื่อเสียงที่เขาจ้างเรา แต่ถ้าคุณเอาความสามารถไปวัดเราก็วัดไม่ได้อีก”
เจนนิเฟอร์ คิ้ม
เจ็บใจทุกครั้งเวลานึกย้อนภาพวัยเด็ก ?
“อย่าเรียกว่าเจ็บใจ เรียกว่าแค้นมากกว่า ซึ่งเมื่อก่อนเราเดินสายประกวดร้องเพลงบ่อยมาก ช่วงนั้นไม่เคยได้รางวัลตกรอบตลอด แต่มันทำให้เรามีโปรไฟล์ ราคาค่าตัวก็ขึ้นจาก 150 เป็น 500-700”
ถูกคนทักแรง ?
“ช่วงประกวดร้องเพลงถูกคนทักแรงว่ามาขายเต้าฮวยเหรอ แต่เป็นเรื่องที่เราไม่โกรธเลย เพราะว่าเตี่ยบอกไว้แล้วว่าเราเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับความขัดแย้งกับสิ่งต่างๆ เขาจะสอนให้เรายอมรับความจริงด้วยตัวเราเอง ไม่ได้ถือว่าเป็นคำบูลลี่เพราะเขาพูดความจริง ถึงวันนึงถ้าคุณไม่พูดออกมาเราก็นึกในใจว่าถ้ากูกำลังขายเต้าฮวยคือกูเป็นเจ้าของร้านเต้าฮวย คุณพ่อสอนให้เราเข้มแข็งและสามารถอยู่บนพื้นฐานของสังคมนี้ได้”
