วอนนายจ้างหยุดสั่งนำเข้าแรงงานเถื่อน หลังยอดจับกุมเพิ่มสูง หวั่นเป็นปัญหาต่อการควบคุมโควิด

กห. วอนนายจ้างหยุดสั่งนำเข้าแรงงานเถื่อน หวั่นกระทบส่วนรวม “ประวิตร” สั่งขยายผลทำร้ายขบวนการ

 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ หยุดจ้างแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรองควบคุมโรค ซึ่งจะสร้างปัญหาการกลับมาแพร่ระบาดและความเสียหายต่อส่วนรวมระยะยาวในสถานการณ์และโอกาสที่เรากำลังเปิดประเทศและกลับมาใช้ชีวิตปกติในวิถีใหม่ร่วมกัน

โดยในภาพรวมของการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยังคงมีการทำเป็นขบวนการ โดยมีต้นทางจากผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการที่เห็นแก่ได้ สั่งความต้องการแรงงานเถื่อนไปยังตัวแทนหรือนายหน้าที่จัดตั้งแฝงในรูปบริษัท มีการส่งต่อไปยังผู้นำพาทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านนำพาเข้า

มีผู้ให้ที่พักพิงหลบซ่อนและเคลื่อนย้ายนำส่งพื้นที่เป้าหมายชั้นใน บางขบวนการมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเอื้อประโยชน์และรับส่วยรายหัว มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งขณะนี้ฝ่ายข่าวกำลังติดตามและสืบจากผู้นำพาที่จับได้ถึงความเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค.64 ถึงปัจจุบัน ฝ่ายความมั่นคง ได้ร่วมกันสกัดกั้นและจับกุมคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้แล้ว 30,343 คน เป็นผู้นำพาและให้ที่พักกว่า 100 คน ส่วนใหญ่จับกุมได้บริเวณชายแดนติดประเทศเมียนมา บริเวณพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี และชายแดนประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ จ.จันทบุรี

ทั้งนี้หลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมในพื้นที่ชั้นใน สามารถพบและจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมากขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญขยายผลสืบสวนกรณีเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่มีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่การบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ รวมทั้งให้ทำลายโครงสร้างขบวนการลักลอบนำพาต่างด้าวเข้าเมืองและให้โยงเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องทุกราย

กห.พร้อมสนับสนุนเปิดประเทศไปด้วยกัน ยันตรึงกำลังเข้มสกัดลอบเข้าเมือง

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ฝ่ายความมั่นคง พร้อมสนับสนุนรัฐบาลรับการเปิดประเทศใน 1 พ.ย.นี้ โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับทุกเหล่าทัพ ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ยังคงตรึงกำลังเข้มเฝ้าระวังชายแดน สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ยาเสพติด อาวุธสงครามและสินค้าผิดกฎหมายบริเวณพื้นที่ชายแดนรอบประเทศต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะชายแดนเมียนมาและกัมพูชา ที่พบการลักลอบเข้าเมืองมากขึ้นตามลำดับ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกำชับทุกเหล่าทัพให้ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสกัดกั้นปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวเข้าเมืองในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน พร้อมทั้งให้การสนับสนุน แนะนำและช่วยกำกับการปฏิบัติของประชาชนให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด

ทั้งนี้ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ไม่ประมาทและเตรียมให้การสนับสนุนมาตรการจำกัดควบคุมโรคเร่งด่วนเป็นพื้นที่ หากมีปัญหาการแพร่ระบาดเป็นกลุ่ม สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ขอให้ยังคงร่วมกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับวัคซีนและลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเป็นปัญหาต่อการควบคุมโรค

Next Post

มวลชนร่วมฌาปนกิจ "วาฤทธิ์" เยาวชน 15 ปีถูกยิงหน้า สน.ดินแดง ส่วนคดียังไม่มีความคืบหน้า

มวลชนร่วมฌาปนกิจ ‘วาฤทธิ์’ เยาวชน 15 ปีถูกยิงหน้า สน.ดินแดง – คดีไม่คืบ กมธ.การเมืองเตรียมเรียกตำรวจชี้แจงต่อ  31 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ นายวรชัย เหมะ อดีตสมาชิกสภาผู […]