วิษณุ บอกยังไม่รีบคิดเรื่อง 8 ปีวาระนายกฯ เดี๋ยวถึงเวลาจะสะกิด บิ๊กตู่ “ครบแล้ว ไปเถอะ”

“วิษณุ” ย้ำ 8 ปีวาระนายกฯ ยังไม่รีบคิด ออกตัวหากถึงเวลาสะกิด “บิ๊กตู่” เอง แจงแทนนายกฯ 5 ปี ไม่ได้ขออยู่ต่อแต่เป็นกรอบปฏิรูป

วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่า ยังไม่มีคำตอบอะไร นายกฯ มอบหมายให้ตนไปดูเรื่องนี้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้ดูและยังไม่ต้องทำอะไรในเวลานี้ รวมถึงนายกฯ ยังไม่มีกำหนดให้แจ้งผลการศึกษาเมื่อใด ให้เฉยๆ ไปก่อน และเมื่อตนยังไม่ได้แจ้งผลกับนายกฯ จะมาบอกสื่อได้อย่างไร

พร้อมกันนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวติดตลกว่า “หากเมื่อไหร่ถึงเวลา ผมจะสะกิดนายกฯ ว่า ครบแล้วครับ ไปเถอะ” อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ว่ามานี้ยังทำอะไรไม่ได้เลยที่จะทำให้เกิดความชัดเจนและน่าเชื่อถือ แม้แต่การส่งศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องมีความชัดเจนก่อนเดือน ส.ค. 65 ที่จะครบการดำรงตำแหน่ง 8 ปี หากนับตั้งแต่ปี 57 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นนายกฯ สมัยแรกใช่หรือไม่ถึงจะแจ้งนายกฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่เคยคิดอะไรทั้งนั้น และขอยืนยันว่าตนไม่เคยออกมาระบุว่าการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จะนับตั้งแต่เมื่อใดเพราะยังไม่ถึงเวลา และถ้าหากจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็มีโอกาสยื่นได้ก่อนเดือน ส.ค. 65 แต่ไม่ใช่ยื่นตอนนี้ เพราะถ้ายื่นตอนนี้ศาลก็บอกว่ายื่นไปทำไม และตนไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะไม่อยากเปิดประเด็นในตอนนี้เนื่องจากไม่มีประโยชน์อะไร หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้ในตอนนี้

เมื่อถามว่าประเด็นนี้ต้องชัดเจนก่อนการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปใช่หรือไม่ รองนายกฯ วิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้และไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น เมื่อถามว่ากรณีที่นายกฯ ไปพูดที่นครศรีธรรมราชว่าให้รอดูผลงานอีก 5 ปี หมายความว่าอย่างไร นายวิษณุ ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อธิบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่อีก 5 ปี กระแสที่ออกมาไปบิดเบือน สิ่งที่ท่านจะสื่อสารคือ นโยบายต่างๆ ที่ได้ทำไปจะเห็นผลในอีก 5 ปี และสิ่งที่ท่านพูดถึงกรอบเวลา 5 ปีนั้น เป็นวงรอบของกรอบแผนปฏิรูป ไม่ได้ให้นับ 5 ปีจากปัจจุบัน

เชิญเลขาธิการ กกต. ถามจะยกร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนเห็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า พรรคพลังประชารัฐเตรียมยกร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่จะเสนอกฎหมายได้มี 2 ประเภท คือ คณะรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ส.ส. โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของ กกต.

ทั้งนี้ หากพรรคพลังประชารัฐดำเนินการเรื่องดังกล่าวก็อาจเกิดปัญหาขึ้น เพราะการเลือกตั้งจะกระทบกับทุกพรรค ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐต้องไปสอบถามพรรคต่างๆ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าเห็นชอบกับร่างกฎหมายที่จะเสนอหรือไม่ ไม่เช่นนั้นมันร่วมหัวลงโลงกันไม่ได้เดี๋ยวจะล่มในสภาฯ หรือต่างคนต่างยกร่างเสนอกันเองก็ได้ แต่ในส่วนของรัฐบาล คณะรัฐมนตรีมีมติไปแล้วให้สอบถาม กกต.ว่าจะรับทำเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ถ้าส่งมารัฐบาลจะเป็นผู้เสนอสภาฯ

ภายในสัปดาห์นี้ ตนได้เชิญเลขาธิการ กกต. มาพบเพื่อหารือและสอบถามว่าจะดำเนินการหรือไม่ หรือจะให้ฝั่ง ส.ส. ทำ ถ้า กกต.จะทำ ไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไร ทำเมื่อไหร่ เพราะต้องรับฟังความเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 แตกต่างจากการยกร่างของ ส.ส. ที่ไม่ต้องดำเนินการขั้นตอนดังกล่าว และ กกต.จะนำเสนอรัฐบาลเพื่อนำเข้าสภาฯ ได้เมื่อใด ซึ่งแน่นอนว่าต้องทำภายหลังรัฐธรรมนูญมีการประกาศใช้เสียก่อนถึงจะเสนอได้ แต่ถ้าเตรียมทุกอย่างไว้ในมือ เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศก็เสนอสภาได้เลย

เมื่อถามว่าหาก กกต.จะดำเนินการในเรื่องนี้ ร่างของ กกต.จะเป็นร่างหลักใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากร่างของ กกต. ยังต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอยู่ แต่ร่างของ ส.ส.เข้าสู่สภาฯ ได้ และประธานสภาบรรจุเป็นวาระก็จะได้พิจารณาก่อน เพราะร่างของรัฐบาลตามไปไม่ทัน ดังนั้นไทม์ไลน์ตรงนี้สำคัญ จึงต้องเชิญเลขาธิการ กกต.มาหารือ เมื่อถามว่าเวลาในการพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งจะใช้เท่าไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อแก้ไม่มากก็ไม่น่าจะใช้เวลานาน

และรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภา ใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน และความจริงก็ไม่น่าจะถึง เมื่อทำเสร็จก็ต้องส่งให้ กกต.ดูอีกครั้ง ส่วนจะให้ระบุตอนนี้ว่าต้องใช้เวลากี่เดือนนั้น ยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นว่ามีกี่มาตรา และหากกฎหมายผ่านก็ต้องมีขั้นตอนเรื่องการทูลเกล้าฯ อีก 3 เดือน เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนี้ต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะมีความพร้อมในการเลือกตั้งได้ นายวิษณุ กล่าวว่า “อันนั้นสื่อพูด ผมไม่รู้ เก่ง สรุปได้ ขอให้คะแนนสรุปเป็น ใช้ได้”

เมื่อถามอีกว่า หากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว แต่กฎหมายลูกยังไม่มีผลบังคับใช้ เกิดมีการยุบสภาขึ้นมาแล้วมีการเลือกตั้งจะใช้กฎหมายอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ แต่ยอมรับว่าจะยุ่ง เมื่อถามว่า คำว่ายุ่งหมายความว่าไม่รู้จะนับคะแนนแบบไหนใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ใช่ แต่ก็มีทางออก ซึ่งสิ่งที่สื่อถามว่ารัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว กฎหมายลูกยังไม่เสร็จจะทำอย่างไร ก็ต้องบอกว่าต้องใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่จะนับคะแนนอย่างไร ปัญหามันเล็กลงมาแล้ว มีวิธีแก้ซึ่งคิดไว้แล้วแต่ไม่บอก ทุกสถานการณ์สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ยอมรับว่าถ้าวันนี้ยุบสภาโดยที่รัฐธรรมนูญฉบับที่มีการแก้ไขยังไม่ประกาศใช้ถือว่าง่ายกว่า

เมื่อถามว่ามีสูตรคำนวณ ส.ส. อีกหลายสูตรหรือไม่ ที่ต้องหยิบมาพิจารณา นายวิษณุ กล่าวว่า อันนี้จริงๆ เป็นความจริง จะโยนให้ กกต. รัฐบาล และส.ส. ไปคิด เพราะเขามีสิทธิเสนอกฎหมาย รัฐบาลไม่มีสิทธิ เมื่อถามว่าการเลือกตั้งรอบหน้าการคำนวณ ส.ส. ควรชัดเจนและเข้าใจกันทั้งประเทศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ที่อุตส่าห์แก้กันมาเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจ มันไม่ควรที่จะทะเลาะกันเรื่องกติกา

Next Post

โทนี่ ยอมรับบาปกรรม มีส่วนตั้ง 3 ป. ทำบ้านเมืองพัง วอนพักเถอะ ให้คนรุ่นใหม่มาบริหาร

อตีดนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ชื่อในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ว่า โทนี วูดซัม กล่าวเมื่อวันอังคาร (12 ต.ค.) ยอมรับว่าเป็นบาปกรรมที่ตนมีส่วนในการแต่งตั้งกลุ่ม 3 ป. ขึ้นมามีอำนาจ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “มันเป็นบาปกรรมผมอะ ส่งเสริมพวกท […]