ศบค.ชุดใหญ่ ยังคงไม่อนุญาตให้บรรดาสถานบันเทิงกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง โดยระบุว่าจะอนุญาตเมื่อกิจการมีความพร้อมซึ่งอาจจะเร็วกว่าวันที่ 16 ม.ค. 65 รวมทั้งมีมติต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือน รวมทั้งยกเลิกพื้นที่สีแดงเข้ม
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 19/2564 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ยังคงต้องเน้นมาตรการ COVID Free Setting ทุกกิจกรรมต้องใช้มาตรการนี้ให้ได้ การทำอะไรก็ตามจะต้องฉีดวัคซีนครบทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ
“ทั้งโรงแรมที่พักสถานบันเทิง เมื่อไรมีความพร้อมค่อยว่ากันนะ ก็เห็นใจนะ แต่มาตรการสาธารณสุขก็มีความสำคัญนะ เราต้องการให้เป็นปีใหม่ที่มีความสุขไม่ต้องการให้มีการระบาด” นายกฯ ระบุในระหว่างแถลงข่าว
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติให้มีการยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งยกเลิกการกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม
นอกจากนี้ ยังมีมติให้ต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565
และที่น่าสนใจก็คือ ยังคงมีมติไม่อนุญาตให้บรรดาสถานบันเทิงกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง โดยระบุว่าจะอนุญาตเมื่อกิจการมีความพร้อมตามมาตรการ COVID Free Setting ซึ่งอาจจะก่อนวันที่ 16 มกราคม 2565 ตามมติเดิม ในขณะที่มีการขยายเวลาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. และให้ปิดให้บริการในเวลาเที่ยงคืน
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของมติที่ประชุมทั้งหมด ต้องรอติดตามการแถลงจากทีมโฆษก ศบค. อีกครั้งหนึ่ง
