“สนธิรัตน์-อุตตม” เปิดตัว “พรรคสร้างอนาคตไทย” ลั่น “ไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง”

สนธิรัตน์-อุตตม เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ

พรรคใหม่ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เตรียมลงชิงชัยการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งหน้า มี นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรี จากกลุ่ม 4 กุมารในอดีต จับมือกันมาสองคนสานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้พวกเรามาเพื่อแสดงประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะทำงานให้บ้านเมือง ร่วมกันแก้ปัญหาที่สั่งสมและสร้างอนาคตไทย ผมเรียนว่าสร้างอนาคตไทยไม่ใช่แค่พรรคการเมือง แต่เราจะเป็นพื้นที่เปิด เพื่อรวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพ ในทุกภาคส่วนทุกเพศทุกวัย ช่วยกันระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อฟื้นเศรษฐกิจฟื้นฟูประเทศ

“เราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว เราจะไม่ขวาสุดโต่ง เราจะไม่โกง ไม่ปล้นชาติ เราอาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย” นายอุตตม กล่าว

หลังเปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรค โดยเป็นผู้คนที่มีความหลากหลายในสาขาอาชีพ อาทิ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายสุพล ฟองงาม และ นายสันติ กีระนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ ครูเป็ด อดีตกรรมการบริหารพรรคกล้า นายวัชระ กรรณิการ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ส่วนนักธุรกิจและผูมีชื่อเสียงในสังคม เช่น นายนริศ เชยกลิ่น อดีตผู้บริหารระดับสูงด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงิน นายณพพงศ์ ธีระวง อดีตประธานสมาพันธ์ SME นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม นายวิรัช วิฑูรย์เธียร อดีตหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมจากธนาคารโลก นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล รองเลขาธิการจุฬาราชมนตรี ศ.กำพล ปัญญาโกเมศ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

ส่วนกรณีถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จะมีชื่อเป็นหนึ่งในหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตอบตรงๆ นายสมคิดไม่ทอดทิ้งพวกเรา ถามว่าท่านเหมาะสมหรือไม่ เชื่อว่าท่านเหมาะสม แต่อย่างที่เรียนพวกเรามารวมพลังกัน พวกเราจะช่วยกันพิจารณาว่าใครบ้างมีสามตำแหน่ง ในการเสนอ เรียนว่าเราจะพิจารณาเสนอทั้งสามตำแหน่ง ท่านสมคิดจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ขอผ่านกระบวนการพรรค

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทราบดีว่าหัวใจทุกคนถามถึงท่านสมคิด เพราะต้องยอมรับว่าด้วยคุณสมบัติของท่านเป็นที่จับตาในฐานะที่ความรู้ความสามารถประสบการณ์มีหลายฝ่ายเรียกร้องอยากเห็นท่านขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต ซึ่งพรรคบอกแล้วว่าพรรคมีหลักการของพรรค เรื่องตัวบุคคลเป็นเรื่องที่ตามมา พรรคมีหลักการที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในนามของพรรค

“หลักตรงนั้น คณะทำงานและคณะกรรมการของพรรคจะสรรหาคนที่มีคุณสมบัติตามนั้น และเมื่อได้คุณสมบัติตามนั้นแล้ว พรรคจะเข้าสู่การพิจารณาคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเสนอชื่อท่านเหล่านั้นสามชื่อขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป พรรคมีจุดยืนชัดเจน เรื่องตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอของพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกล้าประกาศว่าเราจะไม่เสนอชื่อท่านประยุทธ์ด้วยเหตุนี้ เป็นหลักการที่เข้าใจตรงกัน เราไม่ได้มีเจตนาเรื่องอื่น แต่นี่เป็นหลักการของพรรคที่จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า เราไม่ได้ตั้งพรรคมาเฉพาะกิจ หรือมารองรับเพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง ดังนั้นขอยืนยันชัดเจนอีกครั้งว่าเราไม่ได้ตั้งพรรคเพื่อเป็นอะไหล่ให้กับใคร แต่ตรงข้ามเราตั้งพรรคแต่เราจะเลือกว่าเราทำงานกับใครและคนหรือพรรคที่เราจะมาทำด้วยต้องเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์และมีเป้าหมายทำงานสอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค นี่คือจุดยืนครับ

Next Post

จากพ่ายศึกเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ สู่แผ่นดินไหว พปชร. และเกมจิ๊กซอว์การเมือง

จากพ่ายศึกเลือกตั้งซ่อมใต้ สู่แผ่นดินไหว พปชร. และเกมจิ๊กซอว์การเมือง จากศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สงขลา เขต 6 และชุมพร เขต 1 ที่ พรรคพลังประชารัฐ พ่ายแพ้ให้กับ พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของเก้าอี้ที่รักษาพื้นที่ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นทั้งสองเขต? เพราะหลังการนับผลคะแนนเลือกตั้ง อิสรพงษ์ มากอำไพ หลานชายของ ชุมพ […]