“อนุทิน” ยันสัมพันธ์นายกฯ ไร้ปัญหา สนทนากับ “ธรรมนัส” เพราะรู้จักกันนานแล้ว

“อนุทิน” ยัน 7 รมต. ประท้วงสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เกิดปัญหาความสัมพันธ์กับนายกฯ-พรรคร่วมรัฐบาล ย้ำแสดงออกเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน

วันนี้ (10 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำถึงกรณี 7 รัฐมนตรีของพรรค บอยคอตต์เรื่องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ไม่มีปัญหา

สิ่งที่แสดงออกไปเป็นการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การทำงานยังเป็น professional (โปรเฟสชันแนล: มืออาชีพ) ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ เพราะการทำงานร่วมกันมีความเห็นแตกต่างกัน เป็นเรื่องปกติของการทำงาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือขัดแย้งใดๆ ทำงานได้ตามปกติ เรื่องอื่นๆ นายกรัฐมนตรียังคงสั่งงาน และได้รายงานนายกรัฐมนตรีตามปกติ

ส่วนจุดยืนโหวตเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ขัดแย้งที่จะให้ปรับแก้สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่กระทรวงคมนาคมมีข้อกังวลที่ขอให้ปรับปรุงชี้แจงตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหนังสือไป

สำหรับปฏิกิริยางัดข้อของพรรคภูมิใจไทยจะกลายเป็นระเบิดลูกใหม่ของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เวลาไม่ปกป้องผลประโยชน์ประชาชนก็ถูกว่า ถูกตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ เวลาปกป้องก็ผิดอีก ก็จะไม่ใช่การทำงาน ตนไม่ใช่พวกลากมากไป พร้อมย้ำว่า การที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. เพราะเราแจ้งนายกรัฐมนตรีทุกครั้งว่า ถ้าประเด็นรถไฟฟ้านี้ไม่ได้คำตอบจาก กทม. เราขอสงวนสิทธิ์ เพราะเราไม่อยากโต้เถียง เพราะคนที่ลำบากใจที่สุดคือประธานในที่ประชุม

ดังนั้น เมื่อทราบว่าจะมีวาระจรเรื่องนี้บรรจุเข้ามาทันที เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการประชุม เลยถอยออกมา และก็ได้ส่งหนังสือชี้แจงไป

ทั้งนี้ ถ้ามีคำตอบ และดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนที่ชัดเจนแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ายังคงเดิมก็จะไม่ลาประชุมแล้ว เพราะถือว่าแสดงท่าทีไปแล้วว่า ถ้าไม่มีการแก้ไขตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ก็จะใช้สิทธิในการพิจารณา

เมื่อถามว่า มีภาพปรากฏในการไปร่วมประชุมที่อาคารรัฐสภา ทำให้ได้เจอและพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถึง 2 วันติดต่อกันนั้น เป็นการเปิดดีลอะไรกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คุยกับใครไม่ได้เลยหรือ? ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาประชุมในนามพรรคใหม่ และเป็นช่วงจังหวะเวลาไปลงคะแนนในที่ประชุม ระหว่างนั้นทางเดินสายหลักในห้องประชุมสภามีเส้นเดียวเจอกัน จึงทักทายกันปกติ

และส่วนตัวเป็นเพื่อนกับ ร.อ.ธรรมนัส มากว่า 20 ปี ถ้าเทียบก็รุ่นเดียวกัน โดย ร.อ.ธรรมนัส เป็น ตท.25 ตนก็รุ่น 25 มีเพื่อนกลุ่มเดียวกันมากมาย จึงเป็นเรื่องปกติที่เจอกัน เป็นคนละเรื่องระหว่างการทำงานและการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า โอกาสในการร่วมงานทางการเมืองกับ ร.อ.ธรรมนัส ในอนาคตเป็นเช่นไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ในทางการเมืองนั้นเวลาฟอร์มทีมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องรอผลหลังการเลือกตั้ง คิดไว้ก่อนไม่ได้ ตนเคยเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ก่อนเลือกตั้งจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่หลังเลือกตั้งผลไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ มือก็หลุด เห็นมาเยอะ ตนจึงไม่มีความวิตกกังวล ทุกอย่างจะชัดต่อเมื่อผลการเลือกตั้งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ อย่าไปผูกมัดอะไร

อย่างไรก็ตาม ตนยังมั่นใจว่าทุกพรรคพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ทุกคนต้องคิดเรื่องการเลือกตั้ง ต้องมีการเตรียมนโยบายเพื่อสื่อสารไปยังประชาชน และต้องเร่งผลิตนโยบายที่ทำให้ประชาชนและประเทศพลิกฟื้นได้ทุกมิติ ถ้าไม่พร้อมจะไม่มีนโยบายใดไปขายให้ประชาชน ซึ่งภูมิใจไทยทำได้ครบตามที่พูดไว้

Next Post

"เต้ มงคลกิตติ์" ประกาศตั้งกลุ่ม 16 ไม่สนมติวิป! ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

“เต้ มงคลกิตติ์” เผย พรรคเล็กตั้งกลุ่ม 16 ประกาศไม่สนมติวิป ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ประเดิมค้านขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยืนยันไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย วันนี้ (10 ก.พ.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการจัดตั้งกลุ่ม 16 ว่า เป็นการรวมตัวของก […]