หลังจากเมื่อช่วงดึกของวันที่ 2 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนักร้องชื่อดังและแนวร่วมกลุ่มราษฎร “นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์” หรือ “แอมมี่ เดอะบอททอมบลู” ในข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 112 วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยคดีของ “แอมมี่” ถูกแจ้ง 3 ข้อหาก่อเหตุวางเพลิง หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ทำให้มีคำถามมากมายเหิดขึ้น ว่าเหตุใดโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต?
เมื่อเปิดดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้เขียนบทบัญญัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้ดังนี้ คือ
มาตรา 112 แห่ง “ประมวลกฎหมายอาญา” ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี
ขณะที่ มาตรา 218 ผู้ใดวาง “เพลิงเผาทรัพย์” ดังต่อไปนี้
(1) โรงเรือน เรือ หรือแพที่คนอยู่อาศัย
(2) โรงเรือน เรือ หรือแพอันเป็นที่เก็บหรือที่ทําสินค้า
(3) โรงมหรสพหรือสถานที่ประชุม
(4) โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่ สําหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา
(5) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน หรือที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ
- แฮชแท็ก #แอมมี่TheBottomBlues ขึ้นอันดับ 1 หลังยอมรับเผาหน้าเรือนจำคลองเปรม
- "แอมมี่"ยอมรับเผาหน้าเรือนจำคลองเปรม ขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว
(6) เรือกลไฟ หรือเรือยนต์อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟ ที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ
มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมฯ
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
โดยในมาตรา 14 ระบุเหตุแห่งการกระทําความผิดไว้ว่า
ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษ “จำคุกไม่เกินห้าปี” หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชน แต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้