“เอ็ม นันทวัฒน์” พูดครั้งแรก! ปมดราม่า “ม้า อรนภา” เคลียร์ชัดทุกความรู้สึก

ตั้งโต๊ะแถลงเพื่อเปิดใจเป็นครั้งแรกต่อหน้าสื่อมวลชน สำหรับ เอ็ม นันทวัฒน์ คู่กรณี ม้า อรนภา ปมดราม่าถูกตบหน้าที่ประเทศเกาหลีเหตุเพราะไม่ยอมไปกินปูตามแพลนที่ถูกวางไว้ โดย เอ็ม นันทวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า…

ถึงจะเคลียร์กันแล้วในตอนนั้นแต่ใจเราก็ยังรู้สึกใช่ไหม ?
“แน่นอนครับวันนั้นผมก็นั่งคิดว่าผมทำอะไรไม่ดีถึงขนาดต้องโดนตบหน้าเลยเหรอ หลังจากนี้ 7 วันที่เหลือ 8 วันที่เหลือจะเป็นอย่างไรต่อไปผมก็เลยคิดว่าผมขอเอาตัวเองออกมาห่างๆ ก่อนดีกว่าจากนั้นม้าเขาก็ไปส่งผมทำจมูก แค่นั้นเลยครับ”

ทำไมเราไม่เลือกที่จะคุยให้เคลียร์ในตอนนั้นทางที่เราเองก็ยังรู้สึกคาใจ ?
“เพราะว่าผมไม่ได้เปิดโอกาสให้แม่ม้าเข้ามาใกล้ๆ เลยครับ ผมจะแบบว่าต่างคนต่างอยู่เลยอ่ะ เพราะว่าจมูกตอนนั้นผมก็ทำเรียบร้อยแล้วและในเมื่อผมทำจมูกแล้วเราก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเจอกันเลย แต่จะมีเจอกันอีกวันก็คือวันที่ผมไปล้างแผล”

ณ ตอนนั้นเรามีความคิดเรื่องที่จะฟ้องบ้างไหม ?
“ผมอยากได้หลักฐานมากกว่าครับว่าผมโดนตบจริง ตอนนั้นยังไม่รู้ครับว่าจะคิดไม่คิด แต่ก็คิว่าจะต้องไปแจ้งความเพื่อจะเอากล้อง CCTV ที่ทำให้ผมได้คลิปมา”

ส่วนตัวเราเองตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
“วันนี้ผมโคตรรู้สึกโล่งเลยครับ รู้สึกปลดล็อกที่สุดเลย”

ก่อนหน้านี้ก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์เราว่าเราอยากได้แสง ?
“ผมสาบานครับว่าตอนนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเป็นอย่างนี้ เพราะตอนที่ผมตั้งใจฟ้องผมก็คิดไว้แล้วเหมือนกันว่าชีวิตในวงการบันเทิงของผมคงจบแล้ว และผมก็ไม่ได้คิดเลยด้วยว่าวันหนึ่งผมจะได้มานั่งตรงนี้ แต่ในเมื่อผมได้มานั่งแล้วผมก็ต้องพูดในสิ่งที่ผมเจอ เพื่อให้ผู้ใหญ่ท่านอื่นได้รับฟังว่าผมไม่ใช่เด็กก้าวร้าว”

เอ็ม นันทวัฒน์

ได้เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?
“เจอกันวันตัดไหมครับ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน”

ทำไมวันนี้เราถึงไม่อยากเจอเขาไม่มาร่วมรายการพร้อมกัน ?
“เพราะว่าแม่ม้าเขาได้พื้นที่สื่อไปแล้วเมื่อวานคนเดียว แล้ววันนี้ผมก็อยากได้เหมือนกัน เพราะผมบอกตรงๆ เลยนะว่าถ้าสมมุติมาคุยด้วยกันสองคนและเหตุการณ์มันไม่ตรงกัน ผมก็จะแย้ง ซึ่งสิ่งที่ผมกลัวที่สุดในวงการบันเทิงก็คือผมกลัวคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขนาดนั้นเนื่องจากผมยังใหม่”

ยังตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีอยู่ไหม ?
“วันนี้ก็ต้องปรึกษาทนายครับเพราะผมไม่รู้เรื่องกฎหมาย แต่ว่าผมมีเอกสารทุกอย่างทั้งหมด”

ทำไมเราถึงไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่ม้าตั้งแต่ที่ประเทศเกาหลี ?
“เพราะผมกลัวใจอ่อนครับ”

พี่ม้าเขาก็ขอโทษเรา เรารับคำขอโทษเขาไหม ?
“แม่เขาขอโทษผมแล้ว ผมก็ขอโทษเขาเช่นกัน คือเราจะไปเอาอะไรต่อ เขาขอโทษมันก็จบแล้ว แต่ในเรื่องกฎหมายผมก็ยังอยากให้มันเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าใครจะถูกตบก็ได้”

แสดงว่าเราก็ยังฟ้องอยู่ใช่ไหม ?
“ฟ้องครับ ยังคงฟ้องอยู่ แต่ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เพราะผมเพิ่งจะเดินทางมาถึง”

เรายืนยันว่าจะไม่ใจอ่อนใช่ไหม เพราะถ้าเรื่องนี้ไปถึงขั้นของกฎหมายแล้ว มันจะไม่สามารถกลับลำได้ ?
“ใช่ครับ ผมยังบอกเขาเลยว่าเราไปเจอกันที่ศาลนะ แต่ตอนเมื่อถึงตอนนั้นเราอาจจะกอดคอกันไปก็ได้ อาจจะจูงมือกันไปก็ได้ คือผมก็ต้องให้บทเรียนเขา”

คิดว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดอย่างไร ?
“ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายเลยครับ แต่ก็คงจะต้องสิ้นสุดตามที่ศาลตัดสิน”

ถ้าเขาดูอยู่เราอยากจะบอกอะไรเขา ?
“ผมอยากขอบคุณแม่ม้าครับ คำที่เราบอกว่าเราจะพูดความจริง เมื่อวานแม่ก็พูดความจริง”

เอ็ม นันทวัฒน์

ทริปที่ไปเกาหลีไปกันแค่สองคนหรือไปเป็นหมู่คณะ ?
“ไป 2 คนครับเป็นการไปเจอกันที่เกาหลี”

หลายคนก็สงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีประเด็นชู้สาวเข้ามาเกี่ยว ?
“ตอนแรกที่อ่านเรื่องนี้ผมเองก็ขึ้นนะครับ แต่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างผมเห็นเขาเป็นรุ่นแม่ เรื่องชู้สาวไม่มีแน่นอน”

บางคนบอกว่าไม่กินปูไม่กินงู ?
“อันนี้แรงมากเลยครับ กินงู ผมแบบ..ใครจะกล้า”

มีอะไรอยากบอกกับคนที่ติดตามข่าวนี้บ้างเพราะมีกระแสหลายด้านหลายฝั่งเกิดขึ้น ?
“ผมใหม่กับเรื่องนี้จริงๆ ครับ และผมเองก็ไม่รู้ว่าผมควรที่จะยืนอยู่ตรงไหน ผมควรที่จะสงสารตัวผมเอง หรือผมควรที่จะสงสารใคร แต่ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสว่าผมโดนตบ ผมคือผู้เสียหาย ไม่ใช่ให้ทุกคนมาคอมเมนต์หน้าผม หรือไปบูลลี่แม่ม้า มันเหมือนทุกคนหลงประเด็น คือคุณอาจจะคอมเมนต์ไว้แค่นิดเดียว แต่ข้อความนั้นมันอยู่ในใจผม เวลามาอ่านมันก็รู้สึกจี๊ดจริงๆ แต่หลังจากนี้ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้วครับ”

Next Post

"แม่หมู" มาเอง ตอบเรื่องการเลือกลูกสะใภ้ แบบนี้ยังพอมีลุ้นใช่ไหม?

เรียกว่ารอลุ้นฟังคำตอบจากนางเอกสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก กันอย่างใจจดใจจ่อแล้ว หลังจากที่ นาย ณภัทร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่า ชอบและกำลังตามจีบฝ่ายหญิงอยู่ ล่าสุดก็ได้มีเพจ ทวงคืนนายณภัทรจากใบเฟิร์นพิมพ์ชนก เกิดขึ้น พร้อมโพสต์ข้อความ “สะใภ้แม่หมู ต้องหนูเท่านั้น จำไว้เลยนะ!!!” ซึ่งก็ได้ม […]