“โม มนชนก” ยิ้มรับ บทเรียนชีวิตสอนให้เป็นคนที่ดีขึ้น นอยด์โดนว่าหน้าดุจนต้องซ้อมหน้ากระจก

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่รักในงานสายการแสดงมาก สำหรับสาว โม-มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ ที่ผ่านการแสดงมาแล้วหลากหลายบทบาท และยังคงพัฒนาตัวเองไม่หยุดยั้ง เดินหน้าหาความรู้และประสบการณ์ด้านงานแสดงอยู่เสมอ อย่างล่าสุด โม ก็ทำเอาแฟนละครทุกคนปรบมือให้รัวๆ กับบท “หวาน” ในละคร “คู่เวร” ละครสุดเข้มข้นเรื่องสุดท้ายกับทางช่อง 3 ก่อนที่จะก้าวสู่เส้นทางนักแสดงอิสระ ปิดฉากละครไปอย่างสวยงามพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าสาวโม ฝีมือไม่ธรรมดาหาตัวจับยากมากๆ

และเมื่อ มีโอกาสได้คุยกับสาว โม แบบเอ็กซ์คลูซีฟเลยต้องให้เจ้าตัวพูดถึงอาชีพที่เจ้าตัวรักมากๆ นี้ พร้อมกับอัปเดตเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาที่โมบอกว่าประสบการณ์ทำให้เป็นคนที่ดีขึ้น พร้อมกับเรื่องหัวใจที่ตอนนี้โสดสนิทแล้ว

ปิดฉากละคร “คู่เวร” อย่างสวยงาม แฟนๆ แห่ชมฝีมือการแสดง

“ละคร คู่เวร โม รับบทเป็น หวาน ภาพที่คนอื่นเห็นจะเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน และจะค่อยๆ เผยนิสัยหรือการกระทำต่างๆ ออกมาเรื่อยๆ แต่ว่าทุกอย่างมีเหตุและผลของมันอยู่แล้วค่ะ”

“โมว่าหวานเขาเป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์หลากหลาย แล้วอีกอย่างคือค่อนข้างไกล โมไม่เคยรู้จักคนนิสัยแบบหวานมาก่อน มันทำให้โมอยากจะรับเล่นบทแบบนี้เพราะมันท้าทายมากๆ มันได้ใช้ทุกศาสตร์การแสดงที่เรียนมาเลย ยาก ยากมาก ตอนอ่านบทเลยคิดว่า ทำยังไงดี อย่างตอนที่โกหกต่อหน้าคนอื่นแล้วต้องร้องไห้ออกมาทันทีมันยากมากนะ พอไปเล่นแล้วจริงๆ เราทำการบ้านถึงรู้ว่าทีเขาเป็นแบบนั้นได้เพราะเขาเชื่อว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ มันไม่ใช่การแสดง มันมาจากข้างในของตัวหวานจริงๆ ฉันถูกกระทำเขาคิดแบบนี้”

“คือ มันไม่ใช่ละครตบตีนะ มันคือละครครบรสดีกว่า เพราะมีทั้งเรื่องของครอบครัว ความสัมพันธ์ของเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ทุกตัวละครเขามีที่มาที่ไป มันเป็นสีเทา มันเป็นมนุษย์ คำพูดคำจามันเป็นมนุษย์ ไม่มีใครดีหรือไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์”

“เห็นฟีดแบคค่ะ จะมีคนส่งให้ดูตลอด คนเขาก็พูดว่าทำไมหวานมันร้ายขนาดนี้ อยากหยุมหัวหวาน แบบเป็นคนเลวอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) ชอบ ถ้าฟีดแบคที่ดีแปลว่าเขาอินไง ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจในการทำงาน เบื้องหลังมันหนักมากนะ หมายถึงการกระทำทุกอย่างของหวาน แต่ถ้าคนดูชอบ โมก็ดีใจค่ะ”

โม มนชนก ในละคร คู่เวร

“เครียด เพราะว่าตั้งใจมากๆ กลัวมันออกมาไม่ถูกใจ แต่โมพยายามปล่อยวางว่าเราทำดีที่สุดเท่าที่เราทำได้แล้ว เราใช้ทุกศาสตร์การแสดงไม่ว่าจะไปเรียนประเทศไหนมา ขุดทุกอย่างที่มีมาใช้หมดเลย”

“บทร้ายจริงๆ โม ไม่ติด โมเล่นได้ โมรู้ว่าตอนนี้มันไม่ได้มีภาพชัดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว โมรู้สึกว่าทุกคนเป็นนักแสดง ทุกตัวละครมีความสำคัญหมด มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำเสนอออกมาแบบไหนค่ะ”

โม กับ อาชีพนักแสดง มีทั้งความ “สนุก” และจังหวะ “ท้อแท้”

“โมรักการแสดง โมคิดว่าไม่ว่ายังไงวันนึงที่โมโตขึ้น โมก็ยังจะรับงานด้านนี้ หรืออาจจะไปทำเบื้องหลังหรืออะไรก็ตาม แต่โมชอบในงานสายนี้ โมพยายามเติมความรู้ให้ตัวเองอยู่ตลอด อย่างเรียนแอคติ้ง โมเคยไปเรียนที่นิวยอร์กแล้วก็ไปเรียนที่เกาหลีด้วย แล้วในไทยก็มีหลากหลายครูค่ะ เรียนเยอะมากเพราะรู้สึกว่าเป็นความรู้ที่ไม่มีวันเต็ม มันหลากหลายเราต้องตามให้ทันอยู่ตลอด”

“มันไม่ง่าย มันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว โลกมันเปลี่ยนไปตลอดค่ะ เราก็ต้องปรับตามสถานการณ์ไปค่ะ ตอนนี้โมเป็นฟรีแลนซ์แล้ว เรื่องคู่เวร เป็นผลงานทิ้งท้ายเลย อยากให้คนจดจำ (หัวเราะ) กับช่อง 3 แล้วตอนนี้ก็เป็นฟรีแลนซ์ค่ะ”

“ยูทูปก็เป็นอีกหนึ่งงานที่ท้ายทายความสามารถมาก เพราะโมความรู้เท่ากับศูนย์ ตอนเริ่มโมเริ่มจากเพจเฟซบุ๊กก่อนชื่อ โมมน แฮปปี้เกิร์ล เพราะโมเป็นคนชอบเขียน เพราะโมรู้สึกว่าโมพูดไม่เก่ง เรียบเรียงไม่เก่ง แต่พอมาทำยูทูปมันทำให้เราพัฒนาด้านนี้มากขึ้นเพราะต้องสื่อสารกับคนอื่นค่ะ”

“โมอยากทำเบื้องหลังด้วย โมอยากมีโปรดักชั่นของตัวเอง แล้วก็อยากเป็นแอคติ้งโค้ช อยากเป็นเยอะเนาะ (หัวเราะ) เราต้องเชื่อว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้”

“สนุกนะคะแต่มันก็จะมีจังหวะที่เรารู้สึกท้อแท้บ้าง มันมีแหละไม่ว่าจะงานไหน ทุกคนมันจะมีจุดที่ เฮ้อ เบื่อจัง อยากเลิกแล้ว หรืออะไรแบบนี้ แต่โม โมไม่เคยอยากเลิก แต่โมอยากพัก มีพักบ้าง โมก็จะไปหาโน่นหานี่ทำ หาประสบการณ์ใหม่ๆ การได้ไปเมืองนอก ได้คุยกับคนที่หลากหลายช่วยให้เราทีมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น”

โม จากละครคู่เวร

“ทุกคนต้องหาวิธีฮีลตัวเอง มันสอนกันไม่ได้ บางคนไปท่องเที่ยว บางคนเข้าสู่ธรรมะ บางคนวาดรูป ใช้ศิลปะบำบัด มันแล้วแต่ว่าเราต้องการแบบไหน เราถนัดแบบไหน โมไม่เคยคิดเลยนะว่าโมจะพึ่งพาธรรมะ แบบไม่เคยเข้าใจ โอเค โมนับถือศาสนาพุทธ การไหว้พระอะไรโมทำไปตามประเพณี แต่ว่าโมไม่เคยศึกษาจริงจัง แต่ทุกวันนี้มันมีหลายช่องทางให้เราเข้าถึงได้ค่ะ”

คิดมากเรื่องคำวิจารณ์ แต่ทุกเหตุการณ์ คือ “บทเรียน”

“น่าจะเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์อะไรแบบนี้แหละค่ะ แต่ว่าทุกเหตุการณ์ในชีวิตมันเป็นบทเรียนที่สอนเราให้เราโตขึ้น บางทีการที่คนสอน พ่อแม่สอน ครูสอน พี่ๆ สอน มันไม่รู้หรอก จนเรามาเจอเอง แล้วเราต้องรับมือกับสิ่งนี้ ประสบการณ์ทุกอย่างในชีวิตมันสอนให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น ถ้าเรามองเห็นจุดนั้นนะ โมใช้สิ่งที่ไม่ดี สิ่งลบมาคอยพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ว่จะคอยแต่จมดิ่งไปกับมันค่ะ”

“เมื่อก่อนโมเป็นคนพูดนะ แบบ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง! สิ่งนี้ไม่ได้ โมทนไม่ได้ มันผิด แต่เดี๋ยวนี้พอถึงจุดนึง โมจะคิดว่าคนเรามีหลากหลาย คนมีหลายประเภท เราก็ไม่ได้ดี หรือ ดี ร้อยเปอร์เซ็นต์ คนอื่นก็เหมือนกัน ทุกคนเทาๆ กันหมด ก็เลยพยายามเข้าใจ อะไรที่เราควบคุมไม่ได้ก็ปล่อยไป อะไรที่ควบคุมได้เราก็ทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเองค่ะ โมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าโมจะมาถึงจุดนี้”

“โมรู้สึกว่าโมนิ่งขึ้น โตไหมไม่รู้แต่นิ่งขึ้น เวลาเจอเรื่องหรืออะไรก็ยิ้มรับมัน ไม่ต้องเอาตัวหรือเอาใจไปผูกติดกับมัน ทุกคนก็มีเรื่องในชีวิตทั้งนั้น ถามว่าถึงจุดร้องไห้ไหม มี แต่โมไม่ค่อยร้องในชีวิตจริง มันเลยทำให้จุกอกอยู่ข้างใน จริงๆ ทุกคนควรระบายออกมาในทางที่เหมาะสมค่ะ”

เคยนอยด์โดนว่าเรื่องหน้าดุ จนต้องซ้อมหน้ากระจก

“โมว่าคนกลัวโม เขาบอกว่าหน้าดุ ไม่เห็นดุเลย (ฉีกยิ้มหวาน) จริงๆ แล้วโมเป็นคนตลก อันนี้บอกเอง โมไม่ดุ แค่หน้าแบบนี้ แล้วก็เสียงแบบนี้ โมว่าเพราะพูดเร็วด้วย แต่หน้าดุ จะให้ยิ้มตลอดมันก็แปลก ยิ้มไปเรื่อยๆ คนก็คิดว่าบ้าแล้วล่ะ แล้วจะให้ทำยังไง (หัวเราะ) บางทีอะไรไม่ถูกต้องโมก็บอกไม่ถูกต้อง มันก็ต้องมีหลุดบ้างแหละคนเรา แต่ว่าพยายามจะให้อยู่ในความเหมาะสม”

โมเคยซ้อมหน้ากระจกด้วย โคตรตลกเลย ซ้อมว่าต้องทำหน้ายังไง หรือเราจะไปฉีดโบท็อกซ์ให้คิ้วตึงดีเราจะได้ไม่หน้าหงิก คิดหลายอย่างมาก จนสุดท้าย ช่างเหอะ เป็นตัวเองนี่แหละ ไม่เป็นไรคนเรามีสิทธิจะคิดอะไรก็ได้ ไม่นอยด์แล้ว ไม่ใช่ไม่นอยด์เนาะ เราก็เคยนอยด์แหละ คนเราไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาด่าหรอก เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เลย แต่ว่าก็เข้าใจ ไม่เป็นไร ปล่อยเขา เข้าใจ พูดเหมือนง่ายนะ แต่กว่าจะทำได้มันยาก”

โม มนชนก

“โสด” ปิดจ็อบความสัมพันธ์หนุ่มนักธุรกิจ ค้นพบ ความรักไม่ใช่ทุกอย่าง

“ความรัก ตอนนี้โสดค่ะ มันไม่มีใครอยากโสดหรอก แต่พอมันถึงจุดนึงแล้วคนเรามันเข้ากันไม่ได้ มันไม่มีอะไรผิดถูกค่ะ โมเพิ่งเข้าใจว่า อ๋อ เข้ากันไม่ได้ คือ เข้ากันไม่ได้ ตอนเด็กๆ เราจะแบบ อุ๊ย ความรักหวานชื่น ความรักคือที่หนึ่ง แค่คนเรารักกันมันโอเคอะไรแบบนี้ แต่พอโตมันมีหลายเรื่องให้คิด ความรักมันไม่ใช่ทุกอย่าง มันต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เราก็เป็นเพื่อนกันได้ค่ะ มีคุยกันบ้าง”

 “แค่เข้ากันไม่ได้ ไม่มีอะไรเลยค่ะ ไม่ได้มีมือที่สาม ไม่ได้มีอะไรเลย เวลาอ่านข่าวคนอื่น เพิ่งเข้าใจนี่แหละ ว่า อ๋อ คนเราเข้ากันไม่ได้ก็คือเข้ากันไม่ได้ไง เขาไม่ได้ตอบแบบดารา”

“ทุกความสัมพันธ์ที่จบลง ทุกคนเฮิร์ทหมดแหละ แค่อยู่ที่เราจัดการแบบไหน เราจัดการยังไง มีวิธีฮีลตัวเองยังไงแค่นั้น พอโตมาเราจะเห็นว่าคนที่เขาไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่เสียใจนะ ประสบการณ์ชีวิตมันทำให้เราเห็นอะไรหลากหลายยิ่งขึ้น”

 “ทุกคนต้องอยากแต่งงาน ส่วนมีลูกไม่ เพราะไม่สามารถทำใจให้ไม่เป็นห่วงเกิเหตุได้ โมไม่อยากเอาความกดดันจากเราไปส่งให้เด็กแค่นั้นเลยที่โมไม่อยากมีลูก”

อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ของโมบ้าง

“สำหรับแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนโมเสมอ โมต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ คนที่เป็นแฟนคลับโม เขารักที่ตัวโมจริงๆ โมรู้สึกขอบคุณ เพราะเป็นแรงผลักดันที่ดีเหมือนกันว่า คนชื่นชอบในตัวเราเพราะเราเป็นแบบนี้นะ ขอบคุณค่ะ”

 

ขอบคุณ

Makeup: @wearqpreaw 

Hair : @torrmonster 

Clothes: @bchurunway  

สถานที่ : Slole Cafe & Garden

Next Post

"กุ๊บกิ๊บ" สวยและแซ่บขึ้นมาก ภาพอาฟเตอร์ปาร์ตี้นอนโพสท่าในอ่างจากุชชี่

ช่วงนี้เดินสายไม่หยุด สำหรับคุณแม่ลูกสอง กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ หลังจากที่เพิ่งกลับจากไปเที่ยวประเทศเกาหลีกับลูกสาวทั้งสอง น้องเป่าเปา-น้องเป่าเป้ย์ และล่าสุดก็ได้เห็น กุ๊บกิ๊บ ไปงานแต่งหลานคนแรก และความสวยของกุ๊บกิ๊บ ที่ช่วงนี้มีแต่คนทักกันเป็นแถว  ซึ่งงานนี้ต้องบอกว่า กุ๊บกิ๊บ สวยสะดุดตาอีกแล้ว กับภาพ […]