Exclusive – ถามตรงๆ กับ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” เคลียร์ทุกดราม่าศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.

“อัศวิน” เคลียร์ทุกประเด็นดราม่า! ลุยช่วย 46 ผู้สมัคร ส.ก. รักษ์กรุงเทพ หาเสียง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้สมัครอิสระ ชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  หมายเลข 6 พร้อมกับลูกชาย เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง เริ่มเดินสายลงพื้นที่ และช่วยผู้สมัคร ส.ก. ทีมรักษ์กรุงเทพทั้ง 46 เขตหาเสียง หนึ่งในนั้นคือเขตพระโขนงของผู้สมัคร หมายเลข 2 พชญา ปรีฎาพาก ทีมงาน News เลยได้โอกาสสัมภาษณ์พิเศษถึงหลายประเด็นที่กำลังเป็นกระแส

เรื่องแรกที่ใครๆ ก็สะดุดตากับโปสเตอร์หาเสียงที่ พล.ต.อ.อัศวิน สลัดภาพตำรวจสายลุยมาเป็นแต่งหน้าแต่งตัวถ่ายรูปโปรโมทหาเสียง จนหลายคนแซวว่า “หน้าเทา” บ้าง “โดนช่างแต่งหน้าแกง” บ้าง พล.ต.อ.อัศวิน ถึงกับหลุดขำ พร้อมตอบทีเล่นทีจริงว่าไม่รู้ว่าโดนแกงหรือโดนต้ม แต่ยอมรับว่าปกติไม่เคยแต่งหน้าเลย ตอนรู้ว่าต้องแต่งหน้าถ่ายรูปก็เขินๆ ซึ่งตัวเองเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องการบำรุงผิวหน้า ขนาดลงพื้นที่ก็ยังไม่เคยทาครีมกันแดด แป้งอาจจะไม่เข้ากับหน้าบ้างก็เป็นธรรมดา เพราปกติทาแต่แป้งเด็ก พล.ต.อ.อัศวิน ตอบด้วยอารมณ์ขัน ขณะที่มีชาวบ้านในเขตคลองเขตชมว่าตัวจริงหล่อกว่าในรูป ขณะลงพื้นที่ ก็ยิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้สมัครและทีมงาน

 

เรื่องน้ำท่วม โดยเฉพาะข่าวที่หากุญแจเปิดเครื่องสูบน้ำไม่เจอ พล.ต.อ.อัศวิน ชี้แจงว่า เรื่องนี้เหมือนตัวเองถูกกล่าวหาฝ่ายเดียวมาตลอด ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่หากุญแจไม่เจอ แต่ยังไม่มีการส่งมอบงาน กุญแจไม่ได้อยู่ที่ กทม. แต่อยู่ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ยังไม่ได้ส่งมอบงาน เปรียบเหมือนซื้อบ้านแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาส่งมอบ ยังเข้าไปอยู่ไม่ได้ ก็ไม่มีกุญแจ แต่ถ้าส่งมอบแล้ว ตัวเองจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าที่ผ่านมา กทม. จัดการปัญหาน้ำท่วมได้

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง ซึ่งถือว่าเป็นผลงานเด่นของผู้ว่า กทม. ทั้งยังสำทับผ่านการแถลงข่าวว่า ประชาชนต้องเลือกนักปฏิบัติที่ทำงานได้จริง ทำงานได้สำเร็จ มีผลงานปรากฎ เหมือนเป็นนัยให้สนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน ซึ่งเมื่อถามเจ้าตัว ก็บอกว่าอาจจะเป็นไปได้ ท่านนายกรัฐมนตรีอาจจะเห็นว่าตัวเองเห็นคนดี อาจจะแอบๆ ชมอยู่ก็เป็นได้

ส่วนผลงานที่ พล.ต.อ.อัศวิน ภาคภูมิใจในฐานะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่า กทม. มา 5 ปีครึ่ง สิ่งแรกเลยคือ กทม.ได้มีส่วนร่วม พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเฉพาะการได้อำนวยความสะดวกให้คนไทยที่หลั่งไหลมาจากทั่วประเทศได้เข้าถวายความจงรักภักดีเป็นครั้งสุดท้ายและส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่ถ้าพูดเรื่องผลงานอื่นๆ ต้องบอกว่ามีอีกหลายอย่าง ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การศึกษา การปรับปรุงถนนหนทาง คูคลอง พัฒนาการเดินทางต่างๆ ซึ่งก็ตรงกับคอนเซปต์ที่บอกว่า “กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปแล้ว” แต่ถามว่าประชาชนพอใจหรือยัง เชื่อว่ายังไม่พอใจ แม้กระทั่งตัวเองตอนเป็นผู้ว่าฯ ก็ยังไม่พอใจตัวเองเลย เพราะว่ายังทำให้ไม่ได้ตามที่ตั้งใจอยากจะทำ เนื่องด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทั้งขอบเขตอำนาจหน้าที่ งบประมาณ และเวลา อีกทั้งหลายโครงการยังต้องสะดุดด้วยการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ กทม. ต้องระดมสรรพกำลังมาแก้ไขปัญหาโรคระบาด

ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนใจร้อน เวลาทำอะไรก็อยากทำให้จบ จึงได้รับฉายาสมัยรับราชการเป็นตำรวจว่า “อัศวินปิดจ๊อบ” คือถ้าทำงานทำคดีไม่จบแล้วนอนไม่หลับ บางทีก็หายไปเป็น 10-20 วันจนกระทั่งแม่บ้านที่บ้านคิดว่าไปแอบมีเด็กอยู่หรือเปล่า แต่จริงๆ คือไปทำงานให้จบ ตอนนี้ก็เลยขัดใจตัวเอง ว่าทำไมเวลาชาวบ้านร้องเรียนเรื่องโน้นเรื่องนี้มา เช่น ท่อน้ำ ทำไมมันยังทำให้เขาไม่ได้ ซึ่งบางทีมันติดเรื่องงบประมาณ หรือเรื่องอะไรต่างๆ ซึ่งหากได้กลับมาเป็นผู้ว่าอีกสมัยก็จะได้สานต่องานพวกนี้ที่ยังไม่จบให้แล้วเสร็จ ซึ่งแตน พชญา ก็กล่าวเสริมว่าทุกวันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน บอกกับลูกน้องเสมอว่าอยากมี 10 มือจะได้ทำทุกอย่างให้เรียบร้อยให้หมด แต่ถ้ามี ส.ก.ทีมรักษ์กรุงเทพทุกเขต รับรองเรียบร้อยได้อย่างใจ พล.ต.อ.อัศวิน อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า แล้วถ้าให้เลือกเป็นซูเปอร์ฮีโร่สักตัว อยากเป็นใคร พล.ต.อ.อัศวิน ตอบชัดเจนทันทีเลยว่า อยากเป็นตัวเอง อยากเป็นอัศวิน  (The Knight) เป็นอัศวินของคนทั้งประเทศ พร้อมกับย้ำสโลแกนว่า ตอนนี้กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าอยากจะให้กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปมากกว่าเดิม ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเบอร์ 6 และ ส.ก.เขตพระโขนง เบอร์ 2 ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

Next Post

วันนี้ชี้ชะตา "ปารีณา" ทนายเผยเจ้าตัวไม่ได้มาศาลเอง แต่พร้อมรับคำตัดสิน

นายทิวา การกระสัง ทนายความของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาคดีฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากคดีรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ และ ที่ดิน ส.ป.ก. 711 ไร่ ว่า ที่ดังกล่าวเป็นการรับที่ดินต่อจากบิดา ก่อนเป็น ส.ส. และมีพื้นที่ไม่ถึง 500 ไร่ เนื่องจากได้มีการแบ […]