NRF ลุยแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ต่อยอดธุรกิจอาหารอนาคต

"เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ เข้าลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ซื้อสินทรัพย์ Prime Labs บนเว็บไซต์ Amazon หวังรายได้จาก e-commerce เพิ่ม 30% ใน 3 ปี เร่งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท ในปี 67

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพธุรกิจ E-commerce ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

โดยมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นกลไกสำคัญ สะท้อนจากการที่มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในตลาด E-commerce โดย Amazon.com ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 38.7% ในตลาดอีคอมเมิร์ซสหรัฐอเมริกา และมูลค่าตลาดของ Amazon.com เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2559-2563 จาก 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทฯ ประกาศเพิ่มขนาดการลงทุนในบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เอ็นอาร์เอฟ คอนซูเมอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF ถือหุ้น 55% ร่วมกับบริษัท Boosted Ecommerce, Inc ในสหรัฐอเมริกา ถือหุ้น 45% จัดตั้งบริษัท Boosted NRF Corporation เพื่อลงทุนในธุรกิจ Branded e-commerce บน Amazon.com โดยมุ่งเน้นการเข้าลงทุนผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่ม Ethnic Food, Plant-Based Food, Functional Product

โดยจะคัดเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องมียอดขายที่ดีในระบบ E-Commerce ของ Amazon และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเกณฑ์การเลือกลงทุนที่ชัดเจนเพื่อให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์สูงสุด บริษัทฯ จึงเพิ่มขนาดเงินลงทุนเป็น 17 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 508.8 ล้านบาท จากวงเงินเดิม 7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 209.5 ล้านบาท ในการลงทุนเข้าซื้อกิจการ

ทั้งนี้ บริษัทฯ เห็นโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้แบรนด์ Prime Labs ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้ชายวัย 45 ปีขึ้นไป โดยมียอดขายอันดับ 1 ใน Amazon.com ซึ่งทำให้ NRF สามารถสร้าง Online Community ได้เนื่องจากมีฐานลูกค้ากว่า 200,000 ราย เพื่อต่อยอดธุรกิจปัจจุบัน

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของ NRF บนแฟลตฟอร์ม E-commerce จะช่วยเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง และเป็นการเพิ่มโอกาสในการเสนอขายสินค้าในหมวดผลิตภัณฑ์อื่นๆ แก่กลุ่มลูกค้าเดิม และสามารถต่อยอดไปสู่แผนการลงทุนในอนาคต เช่น การรับจ้างเป็นผู้ผลิตสินค้า (OEM) รวมถึงการต่อยอดธุรกิจ V-shape เป็นต้น คาดว่าการลงทุนดังกล่าว จะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป และจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15%

  • NRF โชว์ผลงานปี 63 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ทำรายได้ 1,408 ล้านบาท
  • NRF เตรียมจัดกิจกรรม Root the Future Festival : Plant-Based Food & Sustainability ต้อนรับเทศกาลอาหารโปรตีนจากพืชที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมเปิดขายผลิตภัณฑ์ครั้งแรกในไทย

ขณะที่แผนการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการขายเติบโต 20% จากปี 2563 ที่มีรายได้ จากการขาย 1,408 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตผ่าน 3 ธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นแตะ 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 8% หลังมีกระแสความนิยมการบริโภคทั้งใน สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทาง E-Commerce ของ Amazon เป็นปีแรก

อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และมองโอกาสเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุน ซึ่งจะเป็นส่วนที่ช่วยให้ NRF ต่อยอดผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวจะสนับสนุนเป้าหมายรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ในปี 2567 ได้เร็วกว่าที่วางไว้

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนขับเคลี่อนองค์กรสู่เป้าหมาย คือการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพและเก่งเฉพาะทางในทั่วโลก โดยนำเอาแฟลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ E-Commerce คิดเป็น 30% ของรายได้ทั้งหมด และมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้าง NRF Online Communityซึ่งจะมี Data ที่คอยเก็บข้อมูลมาเพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

พร้อมมีวิสัยทัศน์มุ่งหวังให้อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based food) เข้าเป็นส่วนหนึ่งในมื้ออาหารของกลุ่มผู้บริโภคทุกครัวเรือน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงของระบบอาหารและช่วยโลกให้ยั่งยืน นอกจากนี้ บริษัทฯ ศึกษาการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ใน E-Commerceที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆนี้ ซึ่งบริษัทที่จะลงทุนต้องเป็นธุรกิจที่มี EBITDA อย่างน้อย3 แสน – 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาซื้อธุรกิจเป้าหมายต้องไม่เกิน 3.5 เท่า สำหรับค่าลงทุนส่วนแรก อย่างไรก็ตาม รูปแบบการร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) จะทำให้ NRF เติบโตอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินรวมไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการดำเนินงาน และ/หรือ ขยายธุรกิจ และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท หรืออื่น ๆ ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร สำหรับอัตราดอกเบี้ย จะขึ้นอยู่กับภาวะตลาดในขณะที่ออกเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว ทั้งนี้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของคณะกรรมการการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่กำหนดไว้

โดยกำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 22 เมษายน 2564 14.00 น. ณ ห้องพิมานแมนโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ หรือสามารถร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (Record date) วันที่ 29 มีนาคม 2564

Next Post

"กานต์ วิภากร" แสดงความเห็นส่วนตัว หลังเห็นข่าว "แอมมี่" ถูกจับ

ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง!"กานต์ วิภากร" เผยความเห็นส่วนตัว หลังเห็นข่าว "แอมมี่" ถูกจับ หลังจากนักร้องหนุ่มคนดัง “แอมมี่ The Bottom Blues” ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวที่ รพ.ราชธานี อยุธยา หลังศาลออกหมายจับ ข้อหาวางเพลิงหน้าเรือนจำคลองเปรม จนกลายเป็นกระแสที่สังคมพูดถึง รวมถึง &ldq […]