จากกรณี สามีคลุ้มคลั่งอาละวาด ทำร้ายคนในครอบครัว เจ้าหน้าที่พยายามเชิญตัวไปสงบสติอารมณ์แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอม พยายามต่อสู้ขัดขืน แม้จะถูกจับใส่กุญแจมือ แต่ชายคนดังกล่าวก็กระชากจนขาด ตำรวจต้องขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยอ่างทองกว่า 10 คนช่วยกันจับตัว และใช้เชือกมัดไว้ ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ยังคงร้องเอะอะโวยวายและพยายามต่อสู้จนเชือกที่ใช้มัดขาดถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทองเพื่อสงบสติอารมณ์
ปรากฏว่าระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น ชายคนดังกล่าว มีอาการช็อก หัวใจหยุดเต้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจนสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ ก่อนที่จะเจาะเลือดตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเสพสารเสพติดเข้าไปจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง
- หนุ่มคลั่งทำร้ายเมีย ลูกผวาวิ่งตามเพื่อนบ้านช่วย ตร.มาจับยังเอาไม่อยู่ กระชากกุญแจมือขาด
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาปรากฏว่าชายคนดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายอรรถ (นามสมมติ) เสียชีวิตลงแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง จึงร่วมกับทางแพทย์เวรทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบสารเสพติดในร่างกาย ก่อนส่งศพไปชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
ขณะที่ นางภัค(นามสมมติ) อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ไม่คิดว่านายอรรถจะเสียชีวิต เนื่องจากขณะเกิดเหตุนายอรรถยังไม่มีอาการบ่งบอกว่าจะเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล ตนเองก็ติดตามมา พอมาถึงโรงพยาลได้รับแจ้งว่าสามีของตนหัวใจหยุดเต้น ซึ่งรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งรุ่งเช้าสามีของตนเสียชีวิต ซึ่งตนเองติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ที่เข้าไปล็อกตัวสามีของตน เนื่องจากช่วงนั้นนายอรรถยอมให้จับกุมแล้ว แต่ทำไมต้องจับจับตัวมัดอีก
ด้านนางพร อายุ 56 ปี มารดาของนายอรรถ ร่ำไห้เปิดใจบอกว่าไม่คิดว่าการแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาระงับเหตุ เพื่อที่จะนำตัวลูกชายตนไปสงบสติอารมณ์ จะทำให้สูญเสียลูกชายไป ส่วนตนข้องใจเจ้าหน้าที่ชุดที่สองที่เข้าไปช่วยกันจับตัวว่าทำรุนแรงไปหรือไม่ ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ถูก แต่จะรอผลพิสูจน์จากทางแทพย์ก่อนที่จะเดินหน้าทวงความยุติธรรมต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ ยืนยันไม่มีการทำร้ายผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งขณะนั้นมีทั้งญาติของผู้เสียชีวิต นักข่าว และชาวบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก แต่นายอรรถคลุ้มคลั่งอย่างหนัก จนต้องช่วยกันจับใส่กุญแจมือ ซึ่งนายอรรถก็กระชากจนขาด ต้องช่วยกันจับมัดเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาสั่งให้ชันสูตรศพอย่างละเอียด และนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องของผู้สื่อข่าวมาตรวจสอบ และเป็นหลักฐานเพื่อชี้แจงให้ทางญาติของผู้เสียชีวิตเข้าใจต่อไป
