นักศึกษาสาวโฟนอินเปิดใจ หลังผลตรวจโควิดผิดพลาด ขอให้สาธารณสุขชี้แจงข้อเท็จจริงก็พอ ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร
จากกรณีที่ น้องต้นฝน อายุ 22 ปี ชาว อ.เมือง จ.ลำปาง ได้รับการประสานแจ้งข้อมูลที่ผิดพลาด จากเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ติดเชื้อโควิด–19 หลังมีความเสี่ยง เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดเพื่อนที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง แล้วกลับมาพบกันขณะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเดินทางมากักตัวอยู่ที่บ้านใน จ.ลำปาง เพื่อรอฟังผล
กระทั่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ผลเป็นบวก คือ ติดเชื้อ ซึ่งทาง จ.เชียงใหม่ ก็ได้แจ้งให้ทางโรงพยาบาลลำปางมารับตัว และพาเข้าห้องผู้ป่วยรวม
จากนั้นทางโรงพยาบาลลำปาง ก็ทำการตรวจเชื้อซ้ำ ถึง 2 ครั้ง ผลออกมาว่า เป็นลบ คือไม่พบเชื้อ ทำให้ต้องย้ายออกห้องที่เข้าไปในอยู่รวมกับผู้ป่วยรายอื่น ทำให้นักศึกษาสาวคนดังกล่าว ได้ติดต่อไปยังคณะที่ศึกษาอยู่ เพื่อให้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเช็กผลต้นทาง
ปรากฏว่าได้รับการยืนยันว่ามีผลเป็นลบเช่นกัน ทำให้ทราบว่าเกิดความผิดพลาดในการแจ้งข้อมูลผิดมายังนักศึกษารายนี้ และได้แจ้งข้อมูลผิดมายังโรงพยาบาลลำปาง จนเกิดการไปรับตัวมารักษา กระทั่งได้รับการยืนยันตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลลำปางถึง 2 ครั้ง ผลเป็นลบ
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ (14 เม.ย.) เวลา 13.30 น. นายณรงค์ พิณธิสืบ นักธุรกิจ และนักการเมืองชื่อดังใน จ.ลำปาง อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนใน จ.ลำปาง ว่า ขณะนี้ น้องต้นฝน ลูกสาวตนเองกักตัวอยู่ที่บ้านใน อ.เมือง จ.ลำปาง โดยอยู่บ้านคนละหลังกับตนเอง ขณะนี้ลูกสาววิตกกังวล และรู้สึกแย่อย่างมาก ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตำหนิ ด่าทอ ในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ก็กลัวจะติดเชื้ออีก เพราะกลายเป็นผู้เสี่ยงสูง
“นอกจากนี้ ร้านค้าตามไทม์ไลน์ หรือสถานที่ต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ต้องทำความสะอาด ต้องปิดร้านชั่วคราว ดังนั้น จึงอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ และขอให้ออกมาแถลงความชัดเจน และข้อเท็จจริงต่อสาธารณะชน เพื่อช่วยปกป้องลูกสาวของตนเอง ที่ได้รับความเสียหายอยู่ในขณะนี้ ว่า ไม่ได้ป่วยติดเชื้อ แต่เกิดปัญหาความผิดพลาดด้านใด สำหรับครอบครัว ก็ให้แสดงความขอโทษก็พอ ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอันใด โดยเฉพาะตัวเงิน ไม่เอา”
ด้าน น้องต้นฝน ที่พ่อได้วิดีโอคอลไปหา และได้เปิดกล้องให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาพูดอะไรบ้าง ไม่ควรเงียบ ตอนนี้ตนเองกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งจะไปตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 19 เมษายน 2564 เพราะตนเองอยู่ร่วมห้องกับผู้ป่วยหญิงติดเชื้อรายอื่นแล้ว
ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ ก็ยังรู้สึกแย่ ที่ถูกสังคมรุมตำหนิมาก จนกระทบต่อชีวิตตนเองอย่างมาก ตลอดจนร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ จึงอยากให้หน่วยงานออกมาชี้แจงอะไรบ้าง ตนเองเข้าใจความรู้สึกของทีมสาธารณสุขทุกคน ที่ทำงานอย่างหนัก แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดแล้ว ก็ต้องออกมาพูดแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเองเชื่อว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ อยากให้แก้ไขการทำงาน ระบบการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพราะตนเองเชื่อว่า คงไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงรายเดียวแน่
- สาวสุดเซ็ง รพ.แจ้งผลตรวจโควิดผิดพลาด จากไม่ติดเชื้อกลายเป็นเสี่ยงกว่าเดิม
