ตำรวจยืนยันทหารอากาศขับเก๋งชนนักศึกษาสาว ดับ 2 เจ็บ 1 ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ด้าน 1 ในพี่ชายผู้เสียชีวิตเผยจะไม่ฌาปนกิจศพจนกว่าจะได้ความเป็นธรรม
กรณีเกิดเหตุเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ กลางสี่แยกบ้านธาตุนาเวง ถนนนิตโย ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ทำให้ น.ส.ณัฐพร อายุ 21 ปี และ น.ส.กันยารัตน์ อายุ 21 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อ น.ส.จันจิรา อายุ 21 ปี เบื้องต้นทราบว่า คนขับรถยนต์เป็นทหารอากาศ ยศ พ.อ.อ. อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- สลด! ทหารอากาศขับเก๋งฝ่าไฟแดง ชนนักศึกษาสาวดับ 2 ศพ บอกจะรับผิดชอบแต่หายไป
ล่าสุด วานนี้ (4 เม.ย.) เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร ได้แถลงข่าวถึงเรื่องอุบัติเหตุที่กำลังตกเป็นประเด็นในสังคมขณะนี้ โดยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 เวลา 01.45 น. เกิดเหตุรถเฉี่ยวชนกันระหว่างรถจักรยานยนต์กับรถยนต์ที่บริเวณสี่แยกบ้านธาตุนาเวง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน
หลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย สายตรวจรถจักรยานยนต์และสายตรวจจราจร ได้ไปยังสถานที่เกิดเหตุ ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าผู้ขับรถยนต์ เป็นข้าราชการของกองทัพอากาศ ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลสกลนคร และได้นำผู้ขับรถยนต์มาตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบแอลกอฮอล์ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งเวลาเกิดเหตุที่เป็นคดีจราจร เป็นความเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย ว่าฝ่ายใดจะกระทำความผิดฐานใดบ้าง ช่วงนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตที่สูญเสียลูกไป และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร
ในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุในวันดังกล่าว หากมีการถ่ายคลิปไว้ ขอให้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นพยานหลักฐาน โดยทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ในช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขอให้ขับขี่ด้วยความปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เมาแล้วไม่ขับ
ด้าน นายพงศ์พัฒน์ อายุ 25 ปี พี่ชายของ น.ส.กันยารัตน์ 1 ในผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งศพอยู่ที่อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งได้เดินทางมาฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวในวันนี้ด้วย เล่าว่า กลัวคดีไม่คืบหน้า ตนไม่เชื่อผลการตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ขับรถยนต์ที่บอกว่าตรวจเจอ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คิดว่ามากกว่านั้น
ดูจากการกระทำในคลิป และภาพสถานการณ์ที่เห็นตามสื่อต่างๆ อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องที่เกิดเหตุทั้ง 3 คน ซึ่งขณะนี้น้องที่อยู่ อ.โพนนาแก้ว ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไปแล้ว ส่วนน้องของตนจะยังไม่ทำการฌาปนกิจหากคดียังไม่มีความคืบหน้า
